ต้าร์
... เด็กหนุ่มที่ได้โควต้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส)
ซึ่งไม่ได้เป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ใกล้บ้านเขาเลยบ้านเกิดเค้าอยู่เชียงราย
แต่สมัครโควต้ามาเรียนถึงนครราชสีมา ช่างเป็นการหาประสบการณ์ชีวิตที่ไกลเหลือเกินสำหรับตัวเขาแต่ต้าร์ก็ไม่ได้หวั่นเลยสักนิดที่มาเรียนที่นี่
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เค้าจะสับสนที่จะเลือกเรียน ระหว่างนิเทศน์ศาสตร์
กับวิศวกรรมศาสตร์เพราะต้าร์เอง เรียนสายวิทย์ แต่สอบเอ็นทรานซ์สายศิลป์
อาจจะเป็นช่วงหักเหของชีวิตเด็กมอปลาย ที่เลือกเส้นทางให้ตัวเองไม่ถูกแต่แล้วต้าร์ก็ตัดสินใจได้ว่า
เค้าจะเรียนวิศวะฯ และเส้นทางที่เรียน จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านนิเทศน์ศาสตร์ไปด้วยซึ่งมันจะทำให้เค้าได้ทั้ง
2 อย่างโดยที่ไม่ต้องเสียดายในสิ่งที่ตัวเองได้เลือก ดังนั้น ต้าร์จึงเลือกมาเรียนที่
มทสแต่ลึก ๆ แล้ว เหตุผลที่ต้าร์ตัดสินใจมาเรียนที่นี่ ก็เป็นเพราะว่า
ต้าร์ได้รับหนังสือเชิญให้เข้าร่วมการแนะแนวของ มทส และทำให้เขาได้มาเห็นสิ่งที่เค้าไม่เคยเห็นมาก่อน
นั่นก็คือมหาวิทยาลัย และที่ มทส เป็นมหาวิทยาลัยแรกที่ต้าร์ได้เข้ามาสัมผัส
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นช่วงเวลาแค่ 2 - 3 วัน แต่มันก็ทำให้ต้าร์ ได้ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งก่อสร้าง
ที่รูปร่างแปลก ๆ และสวยงาม นั่นเป็นเพียงสิ่งแรกที่ต้าร์ประทับใจกับที่แห่งนี้
ทั้ง ๆ ที่เขาไม่รู้เลยว่า หนทางข้างหน้าของเขาจะเป็นอย่างไรถ้ามาเรียนที่นี่
"น้อง
ๆ ที่มาถึงแล้ว ให้เข้ามาในห้องพันห้าได้เลยนะคะ ใกล้ถึงเวลาแล้วค่ะ"
เสียงเชิญชวนจากหญิงสาวคนนึงประกาศออกไมค์
เพื่อให้น้อง ๆ ที่มาแนะแนวเข้าไปรวมกันในห้องประชุม ซึ่งชัช... เพื่อนโรงเรียนรุ่นเดียวกันที่มาจากเชียงราย
ตะโกนเรียกต้าร์ให้รีบเข้าห้อง
"เฮ่ย!
ต้าร์เข้าห้องได้แล้ว พี่เค้าเรียกแล้ว ไปเหอะ"
ต้าร์รีบเดินเข้าห้องประชุม ไปพร้อมกับชัชทันที
"ว้าว.ว..ว!!"
ต้าร์กับชัชอุทานพร้อมกัน หลังจากที่ก้าวเข้ามาในห้องประชุม
"นี่มันห้องอะไรนี่
เหมือนโรงละครเลย"
" ชัชชิงถามต้าร์ก่อนด้วยความสงสัย
"อ๋อ! ที่นี่เป็นห้องวิทยพัฒน์ครับ
มีที่นั่ง1500 ที่ พี่ ๆ เรียกกันว่าห้องพันห้า เอาไว้สำหรับเรียนน่ะครับ"
รุ่นพี่ใจดีคนนึง ตอบชายหนุ่มทั้งสอง
เพราะยืนอยู่ใกล้ ๆ
"น้อง ๆ
หาที่นั่งได้เลยนะครับ เดี๋ยวท่านอธิการจะมาถึงแล้ว นั่งหน้า ๆ เลยก็ได้นะ"
รุ่นพี่คนเดิม บอกให้ต้าร์และชัชรีบหาที่นั่งก่อนที่จะเริ่มการแนะแนว
พอการบรรยายจบลง ก็มีการพูดคุยระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง แต่ที่ต้าร์จำได้ติดตาก็คือ
พี่ท็อป นายกองค์การบริหาร องค์การนักศึกษาที่ขึ้นมาพูดบนเวที พลอยทำให้ต้าร์และเพื่อนๆ
ขำขันจนทำให้รู้สึกหายง่วงไปในทันที ด้วยฝีปากและความสามารถเฉพาะตัวของพี่ท็อป
จึงทำให้ต้าร์รู้สึกมีคำถามกับตัวเองว่า
' ถ้าเราเรียนที่นี่
เราจะเป็นแบบพี่เค้าได้ยังไง เอาน่า! ที่โรงเรียนเรายังทำได้เลย '
แล้วต้าร์ก็เลี่ยงความคิดนั้นด้วยการไปดูเทคนิคของพี่ท็อปต่อ
ว่าทำยังไงถึงดึงอารมณ์ของน้อง ๆ ทั้งหมดมาได้
หลังจากจบการบรรยาย
ต้าร์และชัชก็เดินออกมานอกห้อง แต่ยังไม่ทันจะออกจากห้อง ทั้งสองก็สะดุดกับฝูงคน
และป้ายยิ่งกว่าการก่อม็อบ
"'เฮ่ย!
นี่มันอะไรกันเนี่ย ใครมาประท้วงอะไรที่นี่'
ต้าร์คิดในใจพลางทอดสายตาไปดูอีกที
จ้องไปหาป้ายที่กลุ่มคนชูขึ้นมาเป็นสิบ ๆ ป้าย
'หมู่เฮาจาวเหนือ'
'ฅนทักษิณ' 'สุรินทร์ถิ่นช้างใหญ่' 'PPS' 'อุดรธานี' 'ตักศิลามหานคร'
และอีกสารพัดป้าย ต้าร์เลยหันไปถามรุ่นพี่ที่อยู่ข้าง
ๆ จึงได้ความว่า เป็นรุ่นพี่ที่นี่เอง ที่มาต้อนรับและเชิญชวนน้อง
ๆ ให้เข้ามาเรียนที่ มทส และยังเป็นการบอกถึงว่ามีรุ่นพี่มาจากหลาย
ๆ ที่ มาเรียนอยู่ที่นี่ รับรองได้ว่ามาแล้วไม่เหงา
หลังจากการแนะแนวในวันนั้นจบลง ต้าร์กับชัชก็เดินทางกลับเชียงรายทันที
เพราะจะได้กลับไปเรียนทัน และต้าร์ก็ได้เห็นแล้วว่าการเริ่มต้นในชีวิตระดับมหาวิทยาลัย
ไม่ได้ง่ายเหมือนเรียนในระดับมัธยมเลย ต้องเริ่มฝึกบริหารเวลากับตัวเอง
ก่อนที่จะเข้าไปเริ่มต้นชีวิตนักศึกษาแต่อย่างไรก็ตาม ต้าร์ก็ยังนึกถึง
คณะนิเทศน์ศาสตร์ ที่อยากเรียนอยู่ และในที่สุดต้าร์ก็เลือกหนทางชีวิตในระดับอุดมศึกษาของเขาที่
วิศวกรรมศาสตร์ มทส
วันแรกของการเป็นเด็กหอของต้า
มันช่างเงียบเหงาจริง ๆ ต้าร์เข้ามาอยู่หอพักของมหาวิทยาลัย ที่ดูไม่เหมือนหอพักทั่วไป
เพราะมันเหมือนเป็นหมู่บ้านมากกว่า เพราะตอนไปถึงก็มีพี่ ๆ ที่เป็นกรรมการหอพักออกมาต้อนรับและช่วยหอบหิ้วสัมภารก
เอ๊ย สัมภาระต่าง ๆ นานา ที่ต้าร์ขนมาเหมือนจะย้ายบ้านนั่นก็เป็นความประทับใจแรกที่ต้าร์เข้ามาอยู่ที่นี่
แต่หลังจากที่พ่อกับแม่กลับไปแล้ว มีความเงียบเหงาเข้ามาแทนที่ นี่อาจจะเป็นเพราะต้าร์มารายงานตัวเข้าหอพักเร็วไป
ต้ามองดูรอบ ๆ ห้อง มีเตียง ตู้เสื้อผ้า ตู้หนังสือ โต๊ะทำการบ้าน
อยู่ 3 ชุด แสดงว่าจะต้องมีอีก ที่เข้ามาอยู่ในห้องนี้กับต้าร์ แต่สิ่งที่เห็นอีกอย่างหนึ่งก็คือกล่องกระดาษเรียงรายอยู่มุมห้องประมาณ
5-6 กล่องเขียนชื่อว่า 'ต่าย' แสดงว่าต้องมีรุ่นพี่ที่ต้าร์ต้องใช้ชีวิตด้วย
1 คนชื่อว่าต่าย แต่อีกคนน่าจะเป็นรุ่นเดียวกัน
'ก๊อก ก๊อก ก๊อก'
เสียงเคาะประตูดังขึ้นในขณะที่ต้าร์กำลังคิดอะไรเพลิน
ทำให้ต้าร์สะดุ้ง แล้ววิ่งไปเปิดประตูห้องของตัวเองดูว่าใครอยู่หน้าห้องของตน
"สวัสดีครับ"
เสียงทักทายจากชายหนุ่มแปลกหน้ารุ่นราวคราวเดียวกัน
"สวัสดีครับ
อยู่ห้องนี้หรือเปล่า"
ต้าร์ถามด้วยความสงสัย เพราะเห็นชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าสะพายกระเป๋าและแบกสัมภาระมาด้วย
"ครับ"
ชายหนุ่มเบื้องหน้าตอบ
"เราชื่อต้าร์นะ
เพิ่งเข้ามา นี่ของใครก็ไม่รู้ แต่เราคิดว่าเป็นของพี่เมทแน่เลย น่าจะชื่อต่าย
เพราะเขียนชื่อไว้ข้างกล่อง ม่ะ เข้ามาก่อน "
ต้าร์แนะนำตัวพร้อมกับช่วยขนสัมภาระของเพื่อนใหม่เข้ามาในห้อง
"เราชื่อนัย
ยินดีที่ได้รู้จัก เราเพิ่งมาถึง แต่เดี๋ยวจะกลับบ้านก่อน ไปเอาของ
ชายหนุ่มตอบ
"อ้าว นึกว่าเอามาหมดแล้ว
บ้านนายอยู่ที่ไหนล่ะ ส่วนเราอยู่เชียงราย"
ต้าร์ถามเพื่อนเมทอีกครั้ง
"ไกลเหมือนกันเนาะ
ส่วนเราอยู่มุกดาหาร ว่าจะไปซัก 2-3 วันก็จะกลับมาละ"
นัยพูดกลางเก็บของใช้ใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้าของตัวเอง
ต้าร์กับนัยคุยกันได้สักพัก นัยก็เดินทางกลับบ้านเพื่อไปเก็บของ ส่วนต้าร์ก็ลากเก้าอี้ไปนั่งเล่นอยู่ตรงระเบียงหลังห้อง
มองดูบรรยากาศรอบ ๆ หอพักที่ช่างน่าอยู่จริงๆ
"
ตึ่ง ตึง ตีง ตี๊ง เย็นนี้ในเวลา 17.00 น.ขอเชิญชวนน้อง ๆ นักศึกษาใหม่
หอพักสุรนิเวศ 9 มาพบกันที่หน้าหอด้วยนะครับ โปรดฟังอีกครั้งเย็นนี้ในเวลา
17.00 น.ขอเชิญชวนน้อง ๆ นักศึกษาใหม่ หอพักสุรนิเวศ 9 มาพบกันที่หน้าหอด้วยนะครับ
จบประกาศ ตึ๊ง ตึง ตึง ตึ่ง"
เสียงประกาศจากหอพัก
เรียกรวมพลตอน 5 โมงเย็น ต้าร์คิดในใจว่า
'เย็นนี้คงมีโอกาสได้รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ ซะที งั้นบ่ายนี้นอนพักหน่อยดีกว่า'
ว่าแล้วต้าร์ก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงที่จัดไว้อย่างดี เพื่อรอเวลาตอนเย็น
เพื่อไปรวมกับเพื่อน ๆ คนอื่นที่หน้าหอพัก
ตึ่ง..ตึ่งๆ
ตี๊ง ๆ ตึง ตึ่งๆ ตี๊ง ๆ ตึง ไก่ย่างถูกเผา ไก่ย่างถูกเผา..
เสียงร้องเพลงบวกกับเสียงกลองที่ฟังดูคึกคัก
ดังมาจากหน้าหอทำเอาต้าร์สะดุ้งตื่นขึ้นมา ดูนาฬิกา "ใกล้ 5 โมงแล้วนี่นา
ไปล้างหน้าล้างตาก่อนดีกว่า แล้วไปรวมกับเพื่อน ต้าพูดกับตัวเองพลางลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ
พอเสร็จธุระ ต้าก็เดินออกไปหน้าหอพักของตัวเอง เพื่อไปรวมกับเพื่อน
ๆ คนอื่น