"แม่กับพ่อกลับก่อนนะลูก ดูแลตัวเองให้ดีล่ะ"  

     สิ้นเสียงคำอำลาของหญิงผู้เป็นแม่ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ปนไปด้วยความห่วงใย ทำเอาเด็กหนุ่มถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ แต่ก็พยายามข่มใจไว้ ไม่ให้ผู้เป็นแม่ เห็นน้ำตาของตน

     ต้าร์ ... เด็กหนุ่มที่ได้โควต้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส) ซึ่งไม่ได้เป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ใกล้บ้านเขาเลยบ้านเกิดเค้าอยู่เชียงราย แต่สมัครโควต้ามาเรียนถึงนครราชสีมา ช่างเป็นการหาประสบการณ์ชีวิตที่ไกลเหลือเกินสำหรับตัวเขาแต่ต้าร์ก็ไม่ได้หวั่นเลยสักนิดที่มาเรียนที่นี่ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เค้าจะสับสนที่จะเลือกเรียน ระหว่างนิเทศน์ศาสตร์ กับวิศวกรรมศาสตร์เพราะต้าร์เอง เรียนสายวิทย์ แต่สอบเอ็นทรานซ์สายศิลป์ อาจจะเป็นช่วงหักเหของชีวิตเด็กมอปลาย ที่เลือกเส้นทางให้ตัวเองไม่ถูกแต่แล้วต้าร์ก็ตัดสินใจได้ว่า เค้าจะเรียนวิศวะฯ และเส้นทางที่เรียน จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านนิเทศน์ศาสตร์ไปด้วยซึ่งมันจะทำให้เค้าได้ทั้ง 2 อย่างโดยที่ไม่ต้องเสียดายในสิ่งที่ตัวเองได้เลือก ดังนั้น ต้าร์จึงเลือกมาเรียนที่ มทสแต่ลึก ๆ แล้ว เหตุผลที่ต้าร์ตัดสินใจมาเรียนที่นี่ ก็เป็นเพราะว่า ต้าร์ได้รับหนังสือเชิญให้เข้าร่วมการแนะแนวของ มทส และทำให้เขาได้มาเห็นสิ่งที่เค้าไม่เคยเห็นมาก่อน นั่นก็คือมหาวิทยาลัย และที่ มทส เป็นมหาวิทยาลัยแรกที่ต้าร์ได้เข้ามาสัมผัส ถึงแม้ว่ามันจะเป็นช่วงเวลาแค่ 2 - 3 วัน แต่มันก็ทำให้ต้าร์ ได้ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งก่อสร้าง ที่รูปร่างแปลก ๆ และสวยงาม นั่นเป็นเพียงสิ่งแรกที่ต้าร์ประทับใจกับที่แห่งนี้ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่รู้เลยว่า หนทางข้างหน้าของเขาจะเป็นอย่างไรถ้ามาเรียนที่นี่

     "น้อง ๆ ที่มาถึงแล้ว ให้เข้ามาในห้องพันห้าได้เลยนะคะ ใกล้ถึงเวลาแล้วค่ะ"

      เสียงเชิญชวนจากหญิงสาวคนนึงประกาศออกไมค์ เพื่อให้น้อง ๆ ที่มาแนะแนวเข้าไปรวมกันในห้องประชุม ซึ่งชัช... เพื่อนโรงเรียนรุ่นเดียวกันที่มาจากเชียงราย ตะโกนเรียกต้าร์ให้รีบเข้าห้อง

     "เฮ่ย! ต้าร์เข้าห้องได้แล้ว พี่เค้าเรียกแล้ว ไปเหอะ"

     ต้าร์รีบเดินเข้าห้องประชุม ไปพร้อมกับชัชทันที

     "ว้าว.ว..ว!!"

      ต้าร์กับชัชอุทานพร้อมกัน หลังจากที่ก้าวเข้ามาในห้องประชุม

     "นี่มันห้องอะไรนี่ เหมือนโรงละครเลย"

     " ชัชชิงถามต้าร์ก่อนด้วยความสงสัย

     "อ๋อ! ที่นี่เป็นห้องวิทยพัฒน์ครับ มีที่นั่ง1500 ที่ พี่ ๆ เรียกกันว่าห้องพันห้า เอาไว้สำหรับเรียนน่ะครับ"

      รุ่นพี่ใจดีคนนึง ตอบชายหนุ่มทั้งสอง เพราะยืนอยู่ใกล้ ๆ

     "น้อง ๆ หาที่นั่งได้เลยนะครับ เดี๋ยวท่านอธิการจะมาถึงแล้ว นั่งหน้า ๆ เลยก็ได้นะ"

     รุ่นพี่คนเดิม บอกให้ต้าร์และชัชรีบหาที่นั่งก่อนที่จะเริ่มการแนะแนว พอการบรรยายจบลง ก็มีการพูดคุยระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง แต่ที่ต้าร์จำได้ติดตาก็คือ พี่ท็อป นายกองค์การบริหาร องค์การนักศึกษาที่ขึ้นมาพูดบนเวที พลอยทำให้ต้าร์และเพื่อนๆ ขำขันจนทำให้รู้สึกหายง่วงไปในทันที ด้วยฝีปากและความสามารถเฉพาะตัวของพี่ท็อป จึงทำให้ต้าร์รู้สึกมีคำถามกับตัวเองว่า

     ' ถ้าเราเรียนที่นี่ เราจะเป็นแบบพี่เค้าได้ยังไง เอาน่า! ที่โรงเรียนเรายังทำได้เลย '

     แล้วต้าร์ก็เลี่ยงความคิดนั้นด้วยการไปดูเทคนิคของพี่ท็อปต่อ ว่าทำยังไงถึงดึงอารมณ์ของน้อง ๆ ทั้งหมดมาได้

     หลังจากจบการบรรยาย ต้าร์และชัชก็เดินออกมานอกห้อง แต่ยังไม่ทันจะออกจากห้อง ทั้งสองก็สะดุดกับฝูงคน และป้ายยิ่งกว่าการก่อม็อบ

     "'เฮ่ย! นี่มันอะไรกันเนี่ย ใครมาประท้วงอะไรที่นี่'

     ต้าร์คิดในใจพลางทอดสายตาไปดูอีกที จ้องไปหาป้ายที่กลุ่มคนชูขึ้นมาเป็นสิบ ๆ ป้าย

     'หมู่เฮาจาวเหนือ' 'ฅนทักษิณ' 'สุรินทร์ถิ่นช้างใหญ่' 'PPS' 'อุดรธานี' 'ตักศิลามหานคร'

     และอีกสารพัดป้าย ต้าร์เลยหันไปถามรุ่นพี่ที่อยู่ข้าง ๆ จึงได้ความว่า เป็นรุ่นพี่ที่นี่เอง ที่มาต้อนรับและเชิญชวนน้อง ๆ ให้เข้ามาเรียนที่ มทส และยังเป็นการบอกถึงว่ามีรุ่นพี่มาจากหลาย ๆ ที่ มาเรียนอยู่ที่นี่ รับรองได้ว่ามาแล้วไม่เหงา

     หลังจากการแนะแนวในวันนั้นจบลง ต้าร์กับชัชก็เดินทางกลับเชียงรายทันที เพราะจะได้กลับไปเรียนทัน และต้าร์ก็ได้เห็นแล้วว่าการเริ่มต้นในชีวิตระดับมหาวิทยาลัย ไม่ได้ง่ายเหมือนเรียนในระดับมัธยมเลย ต้องเริ่มฝึกบริหารเวลากับตัวเอง ก่อนที่จะเข้าไปเริ่มต้นชีวิตนักศึกษาแต่อย่างไรก็ตาม ต้าร์ก็ยังนึกถึง คณะนิเทศน์ศาสตร์ ที่อยากเรียนอยู่ และในที่สุดต้าร์ก็เลือกหนทางชีวิตในระดับอุดมศึกษาของเขาที่ วิศวกรรมศาสตร์ มทส

     วันแรกของการเป็นเด็กหอของต้า มันช่างเงียบเหงาจริง ๆ ต้าร์เข้ามาอยู่หอพักของมหาวิทยาลัย ที่ดูไม่เหมือนหอพักทั่วไป เพราะมันเหมือนเป็นหมู่บ้านมากกว่า เพราะตอนไปถึงก็มีพี่ ๆ ที่เป็นกรรมการหอพักออกมาต้อนรับและช่วยหอบหิ้วสัมภารก เอ๊ย สัมภาระต่าง ๆ นานา ที่ต้าร์ขนมาเหมือนจะย้ายบ้านนั่นก็เป็นความประทับใจแรกที่ต้าร์เข้ามาอยู่ที่นี่ แต่หลังจากที่พ่อกับแม่กลับไปแล้ว มีความเงียบเหงาเข้ามาแทนที่ นี่อาจจะเป็นเพราะต้าร์มารายงานตัวเข้าหอพักเร็วไป ต้ามองดูรอบ ๆ ห้อง มีเตียง ตู้เสื้อผ้า ตู้หนังสือ โต๊ะทำการบ้าน อยู่ 3 ชุด แสดงว่าจะต้องมีอีก ที่เข้ามาอยู่ในห้องนี้กับต้าร์ แต่สิ่งที่เห็นอีกอย่างหนึ่งก็คือกล่องกระดาษเรียงรายอยู่มุมห้องประมาณ 5-6 กล่องเขียนชื่อว่า 'ต่าย' แสดงว่าต้องมีรุ่นพี่ที่ต้าร์ต้องใช้ชีวิตด้วย 1 คนชื่อว่าต่าย แต่อีกคนน่าจะเป็นรุ่นเดียวกัน

     'ก๊อก ก๊อก ก๊อก'

      เสียงเคาะประตูดังขึ้นในขณะที่ต้าร์กำลังคิดอะไรเพลิน ทำให้ต้าร์สะดุ้ง แล้ววิ่งไปเปิดประตูห้องของตัวเองดูว่าใครอยู่หน้าห้องของตน

     "สวัสดีครับ"

      เสียงทักทายจากชายหนุ่มแปลกหน้ารุ่นราวคราวเดียวกัน

     "สวัสดีครับ อยู่ห้องนี้หรือเปล่า"

      ต้าร์ถามด้วยความสงสัย เพราะเห็นชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าสะพายกระเป๋าและแบกสัมภาระมาด้วย

     "ครับ"


      ชายหนุ่มเบื้องหน้าตอบ

     "เราชื่อต้าร์นะ เพิ่งเข้ามา นี่ของใครก็ไม่รู้ แต่เราคิดว่าเป็นของพี่เมทแน่เลย น่าจะชื่อต่าย เพราะเขียนชื่อไว้ข้างกล่อง ม่ะ เข้ามาก่อน "

      ต้าร์แนะนำตัวพร้อมกับช่วยขนสัมภาระของเพื่อนใหม่เข้ามาในห้อง

     "เราชื่อนัย ยินดีที่ได้รู้จัก เราเพิ่งมาถึง แต่เดี๋ยวจะกลับบ้านก่อน ไปเอาของ”

      ชายหนุ่มตอบ

     "อ้าว นึกว่าเอามาหมดแล้ว บ้านนายอยู่ที่ไหนล่ะ ส่วนเราอยู่เชียงราย"

      ต้าร์ถามเพื่อนเมทอีกครั้ง

     "ไกลเหมือนกันเนาะ ส่วนเราอยู่มุกดาหาร ว่าจะไปซัก 2-3 วันก็จะกลับมาละ"

      นัยพูดกลางเก็บของใช้ใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้าของตัวเอง ต้าร์กับนัยคุยกันได้สักพัก นัยก็เดินทางกลับบ้านเพื่อไปเก็บของ ส่วนต้าร์ก็ลากเก้าอี้ไปนั่งเล่นอยู่ตรงระเบียงหลังห้อง มองดูบรรยากาศรอบ ๆ หอพักที่ช่างน่าอยู่จริงๆ

     " ตึ่ง ตึง ตีง ตี๊ง เย็นนี้ในเวลา 17.00 น.ขอเชิญชวนน้อง ๆ นักศึกษาใหม่ หอพักสุรนิเวศ 9 มาพบกันที่หน้าหอด้วยนะครับ โปรดฟังอีกครั้งเย็นนี้ในเวลา 17.00 น.ขอเชิญชวนน้อง ๆ นักศึกษาใหม่ หอพักสุรนิเวศ 9 มาพบกันที่หน้าหอด้วยนะครับ จบประกาศ ตึ๊ง ตึง ตึง ตึ่ง"

     เสียงประกาศจากหอพัก เรียกรวมพลตอน 5 โมงเย็น ต้าร์คิดในใจว่า
'เย็นนี้คงมีโอกาสได้รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ ซะที งั้นบ่ายนี้นอนพักหน่อยดีกว่า'
ว่าแล้วต้าร์ก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงที่จัดไว้อย่างดี เพื่อรอเวลาตอนเย็น เพื่อไปรวมกับเพื่อน ๆ คนอื่นที่หน้าหอพัก

     “ตึ่ง..ตึ่งๆ ตี๊ง ๆ ตึง ตึ่งๆ ตี๊ง ๆ ตึง ไก่ย่างถูกเผา ไก่ย่างถูกเผา..”
      เสียงร้องเพลงบวกกับเสียงกลองที่ฟังดูคึกคัก ดังมาจากหน้าหอทำเอาต้าร์สะดุ้งตื่นขึ้นมา ดูนาฬิกา "ใกล้ 5 โมงแล้วนี่นา ไปล้างหน้าล้างตาก่อนดีกว่า แล้วไปรวมกับเพื่อน “ต้าพูดกับตัวเองพลางลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ พอเสร็จธุระ ต้าก็เดินออกไปหน้าหอพักของตัวเอง เพื่อไปรวมกับเพื่อน ๆ คนอื่น

     "น้อง ๆ ที่มาใหม่ มาทางนี้เลยครับ นั่งต่อแถวกับเพื่อนเลยนะ นั่งให้เต็ม"

      รุ่นพี่คนหนึ่ง ถือโทรโข่งป่าวประกาศให้น้องใหม่มาเข้าแถวเพื่อร่วมกิจกรรมรับน้องใหม่ของหอพัก ซึ่งในกลุ่มนั้นก็มีต้าร์และชัชที่นั่งรวมอยู่ด้วย ซึ่งชัชก็เป็นอีกคนที่อยู่หอเดียวกับต้าร์ แต่ไม่ได้มาพร้อมกันจึงทำให้ทั้งสองพักอยู่ห้องคนละชั้น และเพิ่งได้เจอกันตอนเย็นวันนั้นเอง......

      หลังจากเสร็จกิจกรรมในภาคค่ำ ต้าร์ก็ได้เพื่อนใหม่อีกเยอะเลยและที่ดูเหมือนสนิทที่สุดก็น่าจะเป็น เอฟ พงษ์ และเป้ เด็กราชบุรี ที่มากันแท็คทีมกันมา และคืนแรก ต้าร์ก็มาเล่นที่ห้องเอฟ ซึ่งมีเป้กับพงษ์มาอยู่ก่อนแล้ว
ทั้ง 4 นั่งคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์สมัยมัธยมให้กันฟังจนเกือบเที่ยงคืน ต้าจึงได้ขอตัวกลับห้องไปนอน

     ...วันแรกของการอยู่หอพักของต้าร์ คงไม่ต่างจากชีวิตเดิมของเขา ที่อาศัยอยู่บ้านพี่สาว จนเหมือนอยู่หอพัก จึงทำให้การปรับตัวกับคนแปลกหน้าไม่ยากนัก ดูเหมือนจะเป็นของง่ายซะด้วยซ้ำแต่ก็ต้องรอดูต่อไป เพราะหลังจากนี้ กิจกรรมน้องใหม่ที่องค์การนักศึกษาจัดให้ ยังมีอีกยาวววววววว แล้วต้าร์จะเป็นยังไง ต้องติดตามตอนต่อไป...