ผ่านมาแล้ว 5 วัน กับการย่างก้าวเข้ามาอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยของต้าร์ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น มันก็ทำให้ต้าร์รู้สึกตื่นเต้นเข้ามาทุกขณะ อาจจะเป็นเพราะกิจกรรมที่องค์การนักศึกษาสรรหาจัดมาให้ทำช่วงแรก ๆ ทำให้คลายความเหงาไปได้มาก ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ กิจกรรมสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี พิธีไหว้ครู พิธีรับเข็มที่ระลึก หรือแม้แต่กระทั่งงานพาแลงก็ตามที แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะกิจกรรมรับน้องในปีนี้ มันยาวนานถึง 2 สัปดาห์ เพราะยังมี การเดินทางไกล T&TR งาน Freshy Night และกีฬาน้องใหม่อีก

     เช้าวันนี้อากาศค่อนข้างแจ่มใส นับว่าเป็นฤกษ์งามยามดี สำหรับกิจกรรมเดินทางไกล T&TR น้องใหม่ Freshy ถูกปลุกกระชากวิญญาณออกจากเตียงตั้งแต่เช้ามืด จากพี่ ๆ กรรมการหอพัก

     “ ตึ่ง ตึง ตึง ตึ๊ง ประกาศจากหอพักสุรนิเวศ 9 เช้าวันนี้เวลา 05.30 น. ขอให้น้อง ๆ นักศึกษาใหม่ ไปรวมกันที่ลานอเนกประสงค์หอพักสุรนิเวศ 5-6 เพื่อทำกิจกรรม T&TR ด้วยนะครับ โปรดฟังอีกครั้ง เช้าวันนี้เวลา 05.30 น. ขอให้น้อง ๆ นักศึกษาใหม่ ไปรวมกันที่ลานอเนกประสงค์หอพักสุรนิเวศ 5-6 เพื่อทำกิจกรรม T&TR ด้วยนะครับ จบประกาศ ตึ๊ง ตึง ตึง ตึ่ง”

      สิ้นเสียงประกาศ ต้าร์ก็ลุกจากเตียงของตัวเองแล้วปลุกนัย เพื่อนเมท ให้ลุกจากเตียงเพื่อเตรียมตัวไปร่วมกิจกรรม T&TR

     “เฮ่ย รีบตื่นกันทำไม ไปนอนต่อไป๊” ป้อม ทักทายต้าร์กับนัยด้วยสีหน้ากวน ๆ

     “นี่...ไอ้อ้วน น้อย ๆ หน่อย เจอหน้าเป็นเห่าเลยนะ เดี๋ยวเอาตะกร้อครอบปากเลยนี่” นัยได้ทีกวนบ้าง

     “เอาซะ ปากดีจริงจริ้ง พ่อหนุ่ม เดี๋ยวกัดหูซะเลยนี่”

     ป้อมตอบพร้อมกับกระโดดเข้าไปเหมือนจะกัดหูนัย นัยรีบวิ่งเข้าห้องน้ำหนีป้อม ก่อนที่จะโดนกัดเอาจริงๆ

     บรรยากาศภายในห้องน้ำดูจะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะต่างคนต่างก็เข้าห้องน้ำมาพร้อมกัน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะว่าห้องน้ำมีมากพอสำหรับเด็กหออยู่แล้ว ไหนจะเป็นห้องอาบน้ำกว่า 30 ห้อง และห้องน้ำอีก 30 ห้อง อ่างล้างหน้าอีกหลายอ่าง ดูเผิน ๆ ยิ่งกว่าเป็นโรงแรมเลยทีเดียว

      หลังจากที่ทำภารกิจส่วนตัวเสร็จ น้องใหม่เฟรชชี่ก็ทยอยมาที่ลานอเนกประสงค์ฯ เพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งต้าร์และเพื่อน ๆ มาถึงก็นั่งตามแถวของกลุ่มสัมพันธ์ โดยมีพี่ท็อปและพี่ดี้ คู่หูตัวแสบ เป็นผู้สร้างความบันเทิงอยู่หน้าแถวเช่นเคย ในส่วนของกิจกรรม T&TR ก็คล้าย ๆ กับการเดินทางไกลของลูกเสือ-เนตรนารี ซึ่งทีมงานได้แบ่งน้องใหม่เฟรชชี่ออกเป็นกลุ่มละ 10 คน แล้วเดินทางไปตามแผนที่ที่ได้รับ โดยแต่ละกลุ่มก็จะมีพี่เลี้ยงประจำกลุ่มที่เป็นอาสาสมัครจากสาขาวิชาต่าง ๆ ที่อยากเข้ามาร่วมกิจกรรมกับน้อง ๆ กว่าร้อยคน กลุ่มของต้าร์ มีสมาชิกครบตามจำนวน ซึ่งแต่ละคนเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก ก็ได้ทักทายสอบถามความเป็นมาอย่างสนุกสนาน กลุ่มของต้าร์มีพี่จากสาขาเทคโนโลยีอาหาร 2 คน ชื่อพี่เอ กับพี่อ๋อ เป็นสาวเหนือทั้งคู่ มาเป็นพี่เลี้ยงประจำกลุ่ม ทำให้ต้าร์สนิทกับพี่เลี้ยงเร็วขึ้น เพราะได้เสวนาภาษาเหนือตลอดการเดินทาง ระหว่างทางก็มีกิจกรรมสนุก ๆ มากมาย เพราะมีพี่ ๆ จากชมรมต่าง ๆ จัดฐานกิจกรรมไว้ต้อนรับและทำกิจกรรมร่วมกับน้อง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมส์หรือการร้องรำทำเพลงต่าง ๆ แต่ละฐานก็ทำให้น้อง ๆ ได้ประทับใจกันไปตาม ๆ กัน และที่ขาดไม่ได้ก็คือ การจัดซุ้มไว้คอยต้อนรับจากสาขาวิชาต่าง ๆ บริเวณลานพลาซ่า เทคโนธานี ใกล้ ๆ กับหอสุรภาที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าท่ามกลางสิ่งปลูกสร้างภายในมหาวิทยาลัย

     “ ตึ้ง ตึ้ง ๆ ตี๊งๆ ตึ้ง ตึ้ง ๆ ตี๊งๆ ตึ้ง ในเช้าสดใสวันหนึ่ง ซึ่งเป็นวันน้ำนอง .....”

     เสียงเพลงบวกเสียงกลอง ที่ฟังดูคึกคักเป็นพิเศษดังมาแต่ไกล ทำเอากลุ่มของต้าร์ตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะไปสัมผัส พอเสร็จจากฐานสุดท้าย กลุ่มของต้าร์ก็รีบตรงไปที่เสียงกลองนั้นทันที

     “โอ้โห...”

     แนน สาวน้อยร่างอวบ อุทานขึ้นมาหลังจากที่เห็นภาพเบื้องหน้า ที่เป็นยิ่งกว่างานมหรสพซะอีก

     “แล้วเราจะไปฐานไหนก่อนดีล่ะเนี่ย เราว่าไปทางนี้ก่อนดีกว่า แล้วค่อยย้อนกลับมา ดีไหมเพื่อน”

     ทิพย์ หนึ่งในสมาชิกภายในกลุ่มออกความเห็น และถามเพื่อน ๆ สมาชิก

     “เราว่าก็ดีเหมือนกัน จะได้เข้าทุกซุ้มเลย น่าสนุกดี”

      ต้าร์กับเพื่อน ๆ เห็นด้วยกับทิพย์ ก็เลยมุ่งหน้าเข้าร่วมกิจกรรมกับพี่ ๆ สาขาวิชาต่าง ๆ จนถึงเย็น

     พอได้เวลาเลิก น้อง ๆ เฟรชชี่ก็ทยอยกลับกันโดยมีรถเมล์ของมหาวิทยาลัยมารับกลับหอพัก เพื่อไปพักผ่อนกัน เพราะวันพรุ่งนี้จะมีงาน Freshy Night อีก ต้องรีบกลับไปเก็บแรงก่อน

     บรรยากาศหอภายในหอพักเริ่มคึกคักเพราะบรรดาพี่ ๆ เริ่มทยอยเข้าหอกันมาบ้างแล้ว และหนึ่งในนั้นก็เป็นพี่ต่าย รูมเมทอีกคนที่อยู่ในห้องของต้าร์ พี่ต่ายเรียนอยู่ วิศวกรรมขนส่ง ปี 2 เป็นคนจังหวัดอุดรธานี มีรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ดี แต่งตัวเซอร์ ๆ ยิ่งกว่าโจอี้บอยซะอีก แถมยังไว้ผมยาวดูโหด ๆ ซะด้วย แต่ก็ไม่มีวีแววว่าจะเป็นคนดุ มิหนำซ้ำยังดูใจดีอีกต่างหาก

     “สวัสดีครับพี่ ผมชื่อต้าร์ครับ มาจากเชียงราย” ต้าร์ทักทายพี่เมทของตนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

     “สวัสดี พี่ชื่อต่ายนะ อ้าว แล้วอีกคนล่ะไปไหนแล้ว” พี่ต่ายทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

     “อ๋อ อีกคนชื่อนัย อยู่มุกดาหาร น่าจะกำลังตามมาครับ พอดีอยู่คนละกลุ่ม” ต้าร์ตอบ

     “ช่วงนี้พี่จะไปเตรียมตัวรับน้องสาขา คงไม่ค่อยได้อยู่ห้อง ยังไงก็ตามสบายกันเลยนะ”

     พี่ต่ายบอกพลางหยิบอุปกรณ์อาบน้ำออกนอกห้องไป

     ต้าร์เดินไปที่ตู้ของตัวเอง แล้วนำอุปกรณ์อาบน้ำเดินตามพี่เมทไป เพราะตอนนี้เสื้อผ้าของต้าร์เปื้อนไปด้วยสีและโคลนเต็มชุด กะว่าเป็นชุดใส่พร้อมทิ้งเลยก็ว่าได้

     หลังจากที่ทำภารกิจส่วนตัวเรียบร้อย ต้าร์ก็ไปทานอาหารหน้ามหาวิทยาลัยกับเพื่อน ๆ ในกลุ่ม พอดีว่าเอฟเอารถยนต์มาใช้ ก็เลยทำให้ออกไปหน้ามอได้สะดวก พออิ่มหนำสำราญกันได้ที่แล้วก็กลับมาพักผ่อน แต่ต้าร์กับเพื่อน ๆ ก็ยังไม่กลับห้อง ไปนั่งคุยต่อที่ห้องเอฟ คืนนี้ไม่รู้อะไรดลใจให้ มานั่งเสวนากันต่อจนเกือบเที่ยงคืน

     ‘เอ้ก อี เอ้ก เอ้ก’ (เอ๊ะ... ในมหาวิทยาลัยมีไก่มาขันด้วยเหรอ)

     เช้าวันนี้แต่ละคนดูเหมือนจะมีความสุขกับการนอนกันมาก เพราะปาเข้าไปเกือบ 09.00 น.แล้ว ยังไม่มีใครตื่นเลย อาจจะเป็นเพราะความเหนื่อยล้าจากกิจกรรมเมื่อวาน ก็เลยทำให้เช้าวันนี้น้องใหม่เฟรชชี่ตื่นสายกันหลายคน ไม่เว้นแม้กระทั่งต้าร์และเพื่อน ๆ ในกลุ่ม แต่ยังไงก็ตาม ต้องกระชากวิญญาณออกจากที่นอนให้ได้ เพราะตอนสาย ๆ มีนัดกันเที่ยวรอบมอ เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ยังไม่เคยได้ออกไปเที่ยวกันที่ไหนเลย ส่วนเพื่อน ๆ ในหอพักบางคนเลือกที่จะเข้าไปเดินเล่นที่เดอะมอลล์ ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโคราช รุ่นพี่ที่นี่มักจะเรียกว่า อาคาร M (The Mall) แต่กลุ่มของต้าร์ ขอเลือกที่จะไปสำรวจบรรยากาศรอบมหาวิทยาลัย

      พอได้เวลาฤกษ์งามยามดี 09.09 น. เป๊ะ! ต้าร์ก็รีบยกหูโทรศัพท์โทรออกจากห้องตนเอง ไปยังห้องของเพื่อน ๆ เพื่อปลุกให้ตื่นนอน แต่ดูเหมือนบางคนยังนอนขี้เซากันอยู่ แต่ก็มิวายที่จะ ต้องตื่นเพราะทนอาการตื้อไม่ไหว เพราะอาการตื้อคนของต้าร์ยิ่งไม่เหมือนใครอยู่ด้วย โดยเฉพาะการปลุกคนให้ตื่น ถ้าไม่ตื่นด้วยเสียง ต้องบุกในระยะประชิดตัว ยังไงก็ต้องตื่นให้ได้ นั่นล่ะ ทำให้เพื่อน ๆ ทุกคนต้องตื่นกันจนได้ และนัดกันตอน 09.30 น.

     เอฟ... โชว์เฟอร์ประจำกลุ่ม ออกไปเตรียมรถของตนเองก่อนจะออกเดินทาง อยู่หน้าหอกับต้าร์และเป้ ส่วนเพื่อนคนอื่น ๆ ก็ทยอยมาจนครบองค์ประชุม

     “นี่ เมื่อไรจะเสด็จกันซะทีจ๊ะ พ่อหนุ่มทั้งหลาย ปล่อยให้คนสวยรอนานแล้วนะ”

     บี... สาวน้อยร่างเล็ก ตะโกนมาแต่ไกล ทำเอาหนุ่มๆ หันไปมองดู

     “ก็กำลังจะไปรับอยู่พอดีน่ะ บีกับพจน์มาซะก่อน ผิดนะเนี่ย รู้หรือเปล่า” เอฟตอบแบบกวน

     “นี่ถ้ามีชายอื่นมารับ เราจะไปก่อนเลยนะเนี่ย ดีนะ ที่เห็นว่ากลุ่มเราหน้าตาดี ก็เลยยอมมาหาถึงที่”

     บีตอบกวนบ้าง ทำเอาหนุ่ม ๆ ขำกันใหญ่

     “เอาล่ะ ถ้ามาพร้อมกันแล้ว เราก็ลุยกันได้แล้ว ว่าแต่... เราจะไปไหนกันก่อนดีล่ะ” ป้อมถามเพื่อน ๆ

     “เราว่าขับอ้อมทางฟาร์มมหาวิทยาลัยดีหรือเปล่า แล้วไปโผล่ทางหอสุรนภาโน่นอ่ะ” อาร์ตแสดงความคิดเห็น ก่อนที่เพื่อนคนอื่น ๆ จะเสนอ

     “ก็ดีนะ เพราะยังไงเราก็จะไปดูกันแทบทุกที่นี่นา ป่ะ งั้นขึ้นรถได้” เอฟสรุป แล้วเรียกเพื่อน ๆ ให้ขึ้นรถ

     ที่แห่งแรกที่ต้าร์กับเพื่อนไปกันนั่นก็คือ ฟาร์มมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้อีกที่หนึ่งของนักศึกษาเทคโนโลยีเกษตรและวิศวกรรมเกษตร เพราะที่นี่เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์และสถานที่ อีกทั้งยังมีร้านจำหน่ายสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์ของฟาร์มฯอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ผัก ผลไม้ ไข่ไก่ เนื้อหมู ปลา นม คุกกี้ ฯลฯ พี่ ๆ เจ้าหน้าที่ฟาร์มฯ เล่าให้ฟังว่า ทุก ๆ เย็นจะมีนักศึกษาวิ่งจากหอพัก มาที่ฟาร์มฯ บ้างก็มาหาอะไรกิน บ้างก็มาออกกำลังกาย ส่วนบุคลากรก็จะมาหาซื้อกับข้าวไปทำกันที่บ้าน และที่นี่ยังเปิดบริการตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นเลยทีเดียว และตอนนี้มีโครงการพัฒนาเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาว มทส อีกด้วย

     ต้าร์กับเพื่อน ๆ อุดหนุนขนมกับไอศกรีมของฟาร์มไปกันคนละนิดคนละหน่อย แล้วก็เดินทางต่อไปที่อ่างสุระฯ หรือที่ชาว มทส เรียกกันว่า สระสามแสน เพราะสมัยแรก ๆ ได้ขุดสระนี้เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ขนาดสามแสนลูกบาศก์เมตร แต่ปัจจุบันได้ขุดเพิ่มใหญ่กว่าเดิม แต่ก็ยังเรียกสระสามแสนกันอยู่ ต้าร์กับเพื่อนเลือกร่มใต้ต้นไม้นอนเล่นกันช่วงกลางวัน บ้างก็ควักกล้องถ่ายรูปมาถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระทึก เอ๊ย ที่ระลึก

     พอได้เวลาซักพัก เอฟก็เรียกเพื่อน ๆ ให้ขึ้นรถ เพราะได้เวลาอาหารเที่ยงแล้ว เอฟและเพื่อน ๆ เลือกไปทานข้าวกันที่ร้านอาหารส่วนกิจการนักศึกษา เพราะอยู่ใกล้ที่สุด และง่ายต่อการออกเดินทางไปยังสถานที่ถัดไป

     “ลุงคะ เอาบะหมี่หมูสับหนึ่งที่ค่ะ แล้วเอาส้มตำด้วยค่ะ”

     บีรีบสั่งก่อน เพราะทนหิวไม่ไหว ส่วนคนที่เหลือก็ต่อคิวเพื่อสั่งอาหารมาทานกัน

     “ผมเอาข้าวราดพะแนง กับไข่ดาวครับ” “ผมเอาโน่นครับ” “หนูเอานี่ค่ะ”

     แต่ละคนสั่งอาหารมากินกันจนเต็มโต๊ะ โดยเฉพาะป้อม ที่ดูจะหิวเป็นพิเศษ ไม่ยอมพูดยอมคุยกับใครเลย สงสัยกลัวเสียจังหวะในการกิน และยังเป็นคนเดียวที่ไม่ชอบทานผัก บริโภคเนื้อล้วน ๆ บางวันสั่งเกาเหลาไม่เอาผัก ทำเอาเจ้าของร้านอาหารบางคนงงกันไปเลย

      หลังจากที่ต้าร์และผองเพื่อนกระหน่ำกับมื้อกลางวันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็วางแผนกันต่อว่าจะไปไหนดี เพราะในมหาวิทยาลัย ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกมากมาย กลุ่มของต้าร์จึงตกลงกันว่า จะไปทางฝั่งของเทคโนธานี เพราะว่ามีสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจหลายอย่าง

      พอไปถึงต่างก็รีบลงจากรถ แล้วตรงไปที่อาคารกลางแจ้งที่มีป้ายติดข้างหน้าว่า

     ‘อาคารสุรนิทัศน์: Amphitheater’

     และอาคารนี้นี่เอง ที่ต้าร์และผองเพื่อนจะได้มาร่วมงาน Freshy Night ในค่ำคืนนี้

     แชมป์ หนึ่งในกลุ่มของต้าร์ รีบวิ่งขึ้นไปตรงทางเข้าก่อนคนอื่น และต้องตะลึงกับความโอโถงบกกับความยิ่งใหญ่อลังการ ของตัวอาคารที่สร้างขึ้นมาราวกับตึกของกรุงโรมประเทศอิตาลี และหากดูเผิน ๆ แล้วเหมือนย้ายห้อง 1500 มาไว้กลางแจ้ง แถมยังมีเสาเหล็กเชื่อติดกันหลายท่อน เป็นรูปสี่เหลี่ยมราวกับเสาประตูรักบี้แต่ต่างกันตรงที่มันสวยกว่าและมีสลิงตรึงแนวติดกับตัวอาคารได้อย่างลงตัว จะดูมุมไหนก็ดูสวยและคลาสสิกมาก ๆ ยิ่งมองมาจากนอกตัวอาคาร ยิ่งเหมือนตัวเองอยู่ในมหาวิทยาลัยต่างประเทศ

     “โอ้ว! พระเจ้าช่วยกล้วยทอด”

     แชมป์อุทานพร้อมเอามือมาปิดปากตัวเอง ยิ่งกว่านางสาวไทยได้มงกุฎ

     “ทำไมมันช่างยิ่งใหญ่อลังการเยี่ยงนี้”

     แชมป์พูดต่อ พลางวิ่งลงไปตรงกลางอาคาร เพื่อดูบรรยากาศโดยรอบกับเพื่อน ๆ คนอื่น

     อาคารแห่งนี้ กำลังถูกตกแต่งด้วยป้าย และเครื่องเสียงอย่างยิ่งใหญ่ เพราะเย็นนี้จะมีงานที่หลาย ๆ คนรอคอย ไม่ว่าจะเป็นน้องเฟรชชี่หรือรุ่นพี่ก็ตาม และอาคารแห่งนี้นี่เอง ที่พี่ ๆ กรรมการหอพักเคยบอกว่า เป็นอาคารแสดงกลางแจ้ง มีไว้จัดงาน Freshy Night งานชาวหอ งานปัญญาชนคนดนตรี และอีกหลาย ๆ งานของมหาวิทยาลัย ดู ๆ แล้วสามารถที่จะบรรจุคนได้มากกว่า 5,000 คนเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังสามารถมองวิวของสถานที่ใกล้ ๆ ได้อีกด้วย อาทิเช่น หอสุรนภา หอดูวิวมองไปแล้วดูคล้ายกับดอกบัว แต่ไฉนพวกรุ่นพี่ของต้าร์ จึงเรียกที่นี่ว่าหอแห้ว อาจจะเป็นเพราะรูปทรงเหมือนผลแห้วกระมัง จึงได้มีชื่อแบบนี้

     นอกจากจะมีหอสุรนภาที่ตั้งเด่นเป็นสง่าแล้ว ก็มีอาคารอีก 3 หลัง ที่ตั้งตระหง่าน ราวกับแฝด 3 ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับอาคารสุรนิทัศน์อีก นั่นก็คืออาคารสุรพัฒน์ 4, 5 และ 6 ซึ่งแต่ละอาคารก็มีสิ่งที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไป เช่น อาคารสุรพัฒน์ 4 เป็นสนามแบดมินตัน และ เทเบิลเทนนิส อาคารสุรพัฒน์ 5 เป็นห้องไทยศึกษานิทัศน์ ศูนย์รวมศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านของไทย โดยเฉพาะศิลปะหัตกรรมของชาวอีสาน ถ้าเข้าไปสัมผัสข้างใจแล้ว ไม่ต่างอะไรกับพิพิธภัณฑ์ของมหาวิทยาลัยนั่นเอง และอาคารสุรพัฒน์ 6 เป็นอุทยานผีเสื้อเฉลิมพระเกียรติ แหล่งรวมความรู้เกี่ยวกับผีเสื้อและแมลงหลากหลายชนิด นับได้ว่า มีทั้งพิพิธภัณฑ์และสวนสัตว์ขนาดย่อม ให้น้อง ๆ เฟรชชี่ได้สัมผัสกันแบบใกล้ ๆ เลยทีเดียวเชียว

      ต้าร์เดินเล่นกับเพื่อนพลางถ่ายรูปเก็บภาพแห่งความประทับใจเอาไว้จนสมควรแก่เวลา จึงได้ชวนกันกลับหอพัก เพื่อพักผ่อนเอาแรงและเตรียมตัวมาร่วมงานในเย็นวันนี้

     จวบจนล่วงเลยมาถึงเวลา 17.00 น. บรรยากาศภายในหอพักเริ่มครื้นเครงมาอีกครั้ง เพราะน้องใหม่เฟรชชี่ทุกคนเริ่มอาบน้ำแต่งตัว แปลงโฉมเพื่อจะได้เข้าไปร่วมงาน Freshy Night ซึ่งคณะทำงานรับน้อง ได้นัดรถเมล์ให้มารับน้อง ๆ ไปร่วมงานตอน 18.00 น. แต่ต้าร์และเพื่อน ๆ คงจะไปกับรถของเอฟ เพราะง่ายต่อการเดินทาง

     “เฮ่ย..!! พร้อมกันหรือยัง ไปกันได้แล้ว แต่งตัวแค่นี้ ไม่ได้ไปงานแฟนซีนะ เอาแค่หน้าตารับได้ก็พอ”

     เสียงตะโกนแซวดังออกมาจากห้อง 3014 ซึ่งเป็นห้องของป้อมนั่นเอง ที่ตะโกนบอกเพื่อน ๆ ในหอให้รีบออกไปขึ้นรถเมล์ เพื่อไปร่วมงานของพวกเขา

     เสื้อขาวขลิบส้ม กางเกงเลสีเขียวน้ำทะเลสกรีนคำว่า SURANAREE#9 ละลานตาเต็มอาคารสุรนิทัศน์ บรรดาหนุ่มสาวเฟรชชี่หลายคนตั้งหน้าตั้งตารอคอยวันนี้กันมานาน ถึงแม้ดูบรรยากาศเหมือนฝนจะมาทักทาย แต่ก็ไม่มีใครคิดจะถอยหนี นอกจากจะมีบรรดาน้องใหม่เฟรชชี่มาร่วมงานแล้วยังมีพี่ ๆ ทุกชั้นปีเข้ามาร่วมงาน จนทำให้บรรยากาศภายในงานคึกคักขึ้นมาทันที ต้าร์และเพื่อน ๆ เลือกนั่งทางฝั่งปีกขวา เนื่องจากว่าตรงกลางถูกจับจองจนเกือบเต็มแล้ว เหลือเป็นบางจุดแต่คงไม่พอที่จะให้ 13 อรหันต์เข้าไปแทรกได้ เหลือแต่เพียงที่ว่างด้านข้าง แต่ก็พอจะทำให้เห็นบรรยากาศภายในงานได้อย่างชัดเจน

     “วู๊..!!! เย้..!!!” “วี๊ด~วิ้ว” “กรี๊ด..ด.....ด..!!”

     เสียงหวีดร้อง เอ๊ย เสียงกรี๊ดกร๊าดเป่าปากชอบใจของชาว มทส ที่มาร่วมงานดังอย่างต่อเนื่อง เพราะบนเวทีกำลังมีการแสดงของชมรมดนตรีสากล ที่ขนพลังการร้องและเล่นดนตรีมาเต็มวง ยิ่งกว่าการเปิดคอนเสิร์ตของศิลปิลดังค่ายต่าง ๆ ทุกวงขนเพลงฮิตติดชาร์ตมาเอาใจน้องใหม่และรุ่นพี่กันอย่างคับคั่ง ยิ่งปีนี้มีผู้สนับสนุนงานมาด้วย ยิ่งทำให้งานดูมีระดับขึ้นมาอีกหน่อย และไฮไลต์ของงานก็คือการประกวด freshy boy และ freshy girl ซึ่งในรอบคัดเลือก ต้าได้ผ่านเข้ามาคัดตัวด้วยพร้อมกับรุ้ง เพราะกลุ่มสัมพันธ์ส่งเข้ามาร่วมสนุก เพราะเห็นว่าทั้งสองมีกล้าแสดงออกดี แต่วันนี้คงไม่ใช่วันของต้าร์กับรุ้ง เพราะว่าเขาและเธอไม่ผ่านรอบ 10 คนสุดท้าย แต่ก็เอาน่า เป็นประสบการณ์ที่ครั้งหนึ่งก็ได้รับการคัดเลือกจากเพื่อน ๆ

     พอการแสดงจากชมรมดนตรีสากลจบลงก็เป็นการเปิดงานโดยรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา แต่คนนี้ล่ะ ที่น้องใหม่เฟรชชี่หลายคนเข้าในว่าเป็นอธิการบดี เพราะออกงานบ่อยซะจนหลายคนเข้าใจผิด ตามด้วยพลุ 9 ลูก สว่างไสวไปทั้งงาน พร้อมทั้งการแสดงเปิดงานของชมรมลีลาศ และ วิศวกรรมขนส่ง ที่ขนเอากระบองไฟมาโชว์ สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้เข้าร่วมงานได้มากทีเดียว เพราะมีทั้งควงกระบอง และพ่นไฟลงบนป้ายที่เป็นตัวอักษรว่า FRESHY NIGHT 9 ได้รับเสียงปรบมือเกรียวกราวเลยทีเดียว

     จากนั้นก็เป็นการประกวด freshy boy & girl รอบแรก และการแสดงจากชมรมศิลปะการแสดง ที่มาถ่ายทอดบรรยากาศของชีวิตเด็กหอให้ได้ดู สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้เข้าร่วมงานได้ดีทีเดียว จากนั้นสลับกับศิลปินที่มาร่วมให้ความบันเทิงกับน้องใหม่เฟรชชี่ ไม่ว่าจะเป็น พรู โน๊ตตูน และแคทลียา อิงลิช ที่ขนเอาเพลงดังของแต่ละคนมาขับร้องกล่อมให้กับน้องใหม่ได้ร้องได้เต้นกัน

     “โอเคนะค้ะ นะคะ นะคะ ออกซักแป๊บนึง..โอ๊ยคิดถึงจังเลย...~”

     เพลงฮิตติดชาร์ตของศิลปิน ทำให้บรรยากาศภายในงาน กลายเป็นสถานที่รวมพลคนชอบเต้น เพราะแต่ละคนก็งัดท่าเต้นที่คิดว่าดีที่สุดของตนเอง ออกมาเต้นแข่งกับเพื่อน

     “กรี๊ดดดดดดดดด….พี่แคทททท”

     เสียงกรีดร้อง เอ๊ะ ไม่ใช่สิ เสียงกรี๊ดของบรรดาสาว ๆ ที่ปลื้มศิลปิน ก็ดังขึ้นอย่างไม่ขาดสายเช่นเดียวกัน

     ถึงแม้ฝนจะตกลงมาเป็นหมีแพนด้า (ช่วง ๆ ) แต่ก็ไม่ทำให้บรรยากาศภายในงานลดลงเลยแม้แต่น้อย ยิ่งสร้างความคึกคักมากขึ้นเสียอีก แม้กระทั่งต้าร์ก็ยังปล่อยสนุกสุดเหวี่ยงไปพร้อมกับเพื่อนคนอื่น ๆ อีกทั้งได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกเพื่อตอกย้ำมิตรภาพระหว่างเพื่อนว่าครั้งหนึ่งที่ได้มาร่วมงานแห่งนี้

     หลังจากเสร็จสิ้นงาน Freshy Night ต้าร์และผองเพื่อนก็พากันกลับ แทบเดินไม่ไหว เพราะเหนื่อยกับการร้องและเต้นกันซะเหลือเกิน แต่ก็ไม่หวั่นเพราะพรุ่งนี้ยังเป็นวันหยุดอีกหนึ่งวัน ใครไม่ไหวก็ยังสามารถชาร์ตแบตเตรียมเครื่องไว้สำหรับวันจันทร์ยังทัน เพราะตั้งแต่นี้ต่อไป เป็นการเริ่มบรรยากาศการเรียนแล้ว แต่ความมันส์ของการรับน้องยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะยังมีกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์และกีฬาน้องใหม่อีก 1 สัปดาห์ ที่ต้าร์และเพื่อน ๆ ต้องเตรียมการแสดงมาโชว์ให้กับเพื่อน ๆ ได้ดู

     เพียงแค่เริ่มต้น ความสนุกสนานก็ถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่บรรยากาศที่เต็มไปด้วยมิตรภาพระหว่างเพื่อนยังครุกรุ่นอยู่อย่างไม่ขาดสายเช่นเดียวกัน มิตรภาพและความสนุกจะดำเนินต่อไปยังไง แล้วบรรยากาศภายในห้องเรียนจะสนุกเหมือนสมัยมัธยมหรือไม่ อีกไม่นาน ต้าร์ก็จะได้สัมผัสวันนั้นด้วยตัวเอง...