หะโหล อาร์ตก๊า ต้าร์อู้เน่อ วันนี้ไปประชุมภาคก่อน่ะ
ต้าร์ถามอาร์ตเพื่อความแน่ใจ
ไปก่ะ 4 โมงแลงปู้นบ่ะใจ้ก๊า อาร์ตตอบ
ใจ้แล้ว อั้นบอกหื้อหนึ่งตวยเน่อ ว่าห้ามลืมไปตวยกั๋นหนา
ต้าร์บอกอาร์ตให้ชวนเพื่อนชาวเหนืออีกคนที่เป็นเพื่อนเมทอาร์ตให้ไปประชุมด้วย
ได้ ๆ เดียวจะบอกหื้อ อาร์ตรับปาก
นอกจาก ต้าร์ อาร์ต หนึ่ง และชัช แล้ว ยังมีอีกหลายคนที่เป็นคนเหนือและอยู่หอพักเดียวกัน
ไม่ว่าจะเป็น หนุ่ม แป๊ก ปูน และติ่ง ที่มาเรียนที่นี่ด้วยกันแล้ว
เย็นนี้ก็คงไม่พลาดที่จะไปพบกันตอนประชุมภาค
ตลอดทั้งเช้า ต้าร์สาละวนอยู่กับการซักผ้า รีดผ้า และทำความสะอาดห้องของตน
อีกทั้งยังไปอาสาทำความสะอาดห้องของเอฟให้ด้วย เพราะว่าเสาร์อาทิตย์นี้
เอฟกลับบ้าน อีกทั้งพี่เมทอีกคนหนึ่งก็ไม่อยู่ ต้าร์ก็เลยอาสาเฝ้าห้องให้
เพราะในห้องมีคอมพิวเตอร์ให้ต้าร์ได้ใช้นั่นเอง
ช่วงบ่ายต้าร์พักผ่อนอยู่ที่ห้องเอฟโดยการนั่งเล่นเกมส์ The sim
เพราะเป็นเกมส์ที่ต้าร์โปรดปรานมากกับการออกแบบบ้าน โชคดีที่เอฟทิ้งสูตรสำหรับโกงเงินเอาไว้ให้
จึงทำให้ต้าร์สนุกกับการตกแต่งบ้านได้อย่างเต็มที่ หลังจากที่ต้าร์สร้างบ้านในฝันได้ตามที่ตนตั้งใจแล้ว
ต้าร์จึงหยิบหนังสือ Logical Thinking ซึ่งเป็นหนึ่งในวิชาเรียนที่ต้าร์ตั้งใจว่า
วันนี้จะอ่านให้รู้เรื่อง เนื่องจากว่าเป็นวิชาที่ต้องใช้ความพยายามในการอ่านมากเป็นพิเศษ
นอกจากจะต้องวิเคราะห์ สังเคราะห์ และ อนุเคราะห์ เอ๊ะ ไม่ใช่สิ แค่
2 เคราะห์นั่นก็พอแล้ว นักศึกษาทุกคนต้องเข้าใจด้วย
ฮ้าว...ว....ว.....ว..!!
ต้าร์อดใจไม่ไหวที่จะต้องหาวทักทายกับหนังสืออยู่ตลอดเวลา สุดท้ายต้าร์ก็สู้ความเหนื่อยล้าไม่ไหว
จึงงีบหลับไปในที่สุด แต่ก็ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนบ่าย 3 ครึ่ง เพื่อเตรียมตัวไปประชุมภาค
ติ๊ดๆ....ติ๊ดๆ....ติ๊ดๆ....ติ๊ดๆ....ติ๊ดๆ....
เสีงนาฬิกาปลุกตัวน้อยดังขึ้นขณะที่ต้าร์กำลังหลับใหลอยู่บนเตียงของตัวเอง
ปั่ก..!!
เสียงสัมผัสนาฬิกาปลุก ที่ต้าร์บรรจงตบด้วยฝ่ามืออันนุ่มนวล พร้อมกับอาการงัวเงียอย่างเห็นได้ชัด
ถึงเวลาแล้วหรือนี่ โอ๊ย..ย.!! ขี้เกียจจริงจริ๊ง...!!
ต้าร์รำพันพร้อมกับบิดขี้เกียจอยู่บนเตียง ก่อนที่จะรวบรวมสติลุกจากเตียงนอนของตนเอง
เพื่อไปล้างหน้าล้างตาสลัดคราบเจ้าชายนิทรา แล้วกลับไปยังห้องนอนของตนเอง
กริ๊ง ๆ ๆ ๆ โทรศัพท์ภายในห้องนอนของต้าร์ดังขึ้นเหมือนรู้ว่าเจ้าของห้องกลับมาแล้ว
สวัสดีครับ ห้อง 9127 ครับ ต้าร์กล่าวทักทาย
ต้าร์ นี่อาร์ตเน่อ จะไปละยัง นี่จะ 4 โมงละหนา
อาร์ตย้ำเวลาที่นัดกันไว้
อือ ๆ เดี๋ยวล้างหน้าก่อนเน่อ กะลังตื่นนิ
เดียวออกไปหา โทรหาคนอื่นไปก่อนเน่อ ต้าร์บอกกับอาร์ต
เออ ๆ ได้... เร็ว ๆ หน่อยเน่อ อาร์ตย้ำกับต้าร์อีกครั้ง
เอาน่า เหลือเวลาจั๊ดนัก เดียวจะฟั่งไปหาเน่อ
ไปละ
ต้าร์พูดเสร็จก็วางหู แล้วรีบออกไปเข้าห้องน้ำ เพื่อเรียกความสดชื่นกลับมาสู่สภาพร่างกายของตัวเองให้เป็นปรกติ
พอต้าร์รวบรวมความสดชื่นกลับมาได้แล้ว ก็ไปเรียกอาร์ตที่ห้องเพื่อไปรวมกับเพื่อนชาวเหนือคนอื่น
ๆ ที่หน้าหอพัก ซึ่งพอมาถึง ชัช แป๊ก ปูน หนึ่ง หนุ่ม และติ่ง ก็มารออยู่ก่อนแล้ว
จึงออกไปประชุมที่ S3 ด้วยกัน
พอบรรดา 8 หนุ่มเหนือมาถึงก็เห็นเหล่าพี่ ๆ ชาวเหนือและบรรดาหนุ่มสาวที่คาดว่าน่าจะเป็นรุ่นราวคราวเดียวกับต้าร์
กำลังนั่งคุยกันอย่างออกรสทีเดียว อยู่บริเวณโต๊ะไม้สำหรับนั่งติวใต้
S3 นั่นเอง ต้าร์จำพี่อี๊ดได้ จึงชวนเพื ่อน ๆ เดินเข้าไปที่กลุ่มของฝูงชนกลุ่มนั้น
ปี้อี๊ด สวัสดีครับ ปี้ ๆ สวัสดีครับ
บรรดา 8 หนุ่มกล่าวทักทายรุ่นพี่
มาละก๊า หนุ่ม ๆ ทั้งหลาย สวัสดีเจ้า อ่ะ
นั่งก่อน รอเพื่อน ๆ คนอื่นซักกำน่อ พี่อี๊ดทักทายหนุ่ม ๆ
ได้ครับ
ต้าร์และเพื่อน ๆ ตอบรับ พร้อมกับเดินเข้าไปนั่งกับเพื่อน ๆ คนอื่น
ต่างก็ถามถึงจังหวัดที่ตนเองอยู่บ้าง อยู่หอพักไหนบ้าง ด้วยความที่มาจากถิ่นเดียวกัน
ทำให้แต่ละคนสนิทกันได้เร็วยิ่งขึ้น
พอได้เวลาตามที่นัดหมายไว้ พี่อี๊ดก็เริ่มเปิดประชุมด้วยการแนะนำตัวของรุ่นพี่
และให้น้อง ๆ ออกมาแนะนำตัวทีละคน จากนั้นก็เริ่มกิจกรรมสันทนาการเพื่อให้น้อง
ๆ มีความสนิทสนมกันมากขึ้น พี่ ๆ ให้น้องใหม่ทุกคนตามล่าลายเซ็นของรุ่นพี่และรุ่นเดียวกันให้ได้มากที่สุด
ใครสามารถหาได้มากที่สุดจะได้รับรางวัลในวันงานบายศรีสู่ขวัญ สุดท้ายก็ได้มีการคัดเลือกประธานประจำรุ่น
ซึ่งก็เป็นไปตามที่หลาย ๆ คนคาดเอาไว้ ต้าร์ได้รับเลือกจากเพื่อน ๆ
ให้เป็นประธานประจำรุ่น ซึ่งต้องมีหน้าที่ประสานงาน และติดต่อเพื่อน
ๆ ในการประชุมแต่ละครั้ง และหลังจากประชุมเสร็จก็แยกย้ายกลับหอพักของแต่ละคน
รุ่งเช้า ต้าร์ตื่นไปเรียนกับเพื่อน ๆ ตามปกติ อีกทั้งยังได้เจอเพื่อน
ๆ ชาวเหนือในห้องเรียนอีกด้วย ต่างก็ทักทายกันตามธรรมเนียมที่น่ารักของชาวเหนือ
ในช่วงพักเที่ยง ต้าร์กับเพื่อน ๆ ชวนกันไปทานข้าวที่โรงอาหารใกล้กับอาคารเรียนรวม
ซึ่งเป็นโรงอาหารขนาดใหญ่ที่สามารถบรรจุนักกินได้กว่าพันชีวิต มีร้านค้าจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มกว่าสิบร้าน
อีกทั้งแต่ละร้านก็คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ถึงแม้ว่าแต่ละคนจะหิวเพียงใด
แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือวัฒนธรรมในการกินที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้นัดหมาย
นั่นก็คือการต่อแถวเพื่อสั่งอาหารมากิน ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา บุคลากร
หรือแม้กระทั่งอาจารย์ก็ตาม
ในระหว่างที่บรรยากาศพักเที่ยงกำลังคึกคักอยู่นั้น อีกฟากของโรงอาหารก็มีเสียงร้องเพลงรับน้องดังขึ้น
เป็นเสียงเพลงจากรุ่นน้องที่กำลังร้องเล่นเต้นรำ เพื่อแลกกับลายเซ็นจากรุ่นพี่นั่นเอง
สำหรับที่นี่แล้วถือว่าเป็นเรื่องปกติที่จะมีบรรยากาศน่ารัก ๆ แบบนี้อยู่ทุกปี
หนุ่ม ผ่อฮั่นลอ สงสัยกำเดียวต้องเป๋นคิวของหมู่เฮาแน่
ๆ เลย
ต้าร์หันไปถามพูดกับหนุ่ม เพื่อนชาวเหนือที่กำลังต่อคิวสั่งอาหารด้วยกัน
ก่อว่าเนาะ แต่หมู่จาวเหนือนั่งกั๋นตี้ไหนบ่ะฮู้นิ
หนุ่มถาม พร้อมกับชะเง้อมองหาเพื่อน ๆ ชาวเหนือคนอื่นๆ
ฮั่นลอ นั่งกั๋นอยู่ฮั่นจั๊ดหลายคนแน่ะ
ต้าร์ตอบพลางชี้ไปยังกลุ่มของเพื่อน ๆ ชาวเหนือที่กำลังทยอยนำอาหารที่สั่ง
มานั่งกินด้วยกัน พอต้าร์กับหนุ่มได้อาหารที่สั่งแล้ว ก็ไปนั่งรวมกับกลุ่มของเพื่อน
ๆ ชาวเหนือ
หลังจากที่ทุกคนทานอาหารเสร็จแล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องปฏิบัติภารกิจที่สำคัญซะที
นั่นก็คือ การตามล่าหาลายเซ็น จากรุ่นพี่ชาวเหนือ ที่ต้องแลกกับกิจกรรมเล็ก
ๆ น้อย ๆ ตามแต่รุ่นพี่จะปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นร้องเพลงหรือเต้นเพลงรับน้องก็ตาม
ต่างก็ทำด้วยความสนุกสนาน และไม่ได้มีแค่กลุ่มของต้าร์เท่านั้นที่ทำกิจกรรมนี้
ยังมีเพื่อน ๆ กลุ่มอื่น ๆ และรุ่นพี่ปี 2 ที่เพิ่งเข้าเป็นน้องใหม่ของสาขาต่าง
ๆ ก็ได้ทำกิจกรรมนี้เช่นเดียวกัน
ต้าร์ได้รู้จักเพื่อนใหม่อีก 3 คน นั่นก็คือ เน กุ้ง และยุรา ซึ่งเป็นเพื่อนของเปรม
สาวเหนือที่ดูท่าทางมั่นใจมาก ๆ ซึ่งแต่ละคนก็มีอัธยาศัยดีมาก จึงไม่ยากที่จะทำให้รู้จักและสนิทกันได้ไวขึ้น
บรรยากาศภายในในโรงอาหารค่อนข้างจะคึกคักเป็นพิเศษ ต้าร์กับกลุ่มเพื่อน
ๆ อยู่ขอลายเซ็นพี่ ๆ จนเวลาล่วงเลยมาถึง 13.00 น. ต้าร์กับเพื่อน
ๆ บางคนที่มีเรียน ได้ปลีกตัวออกไปเรียนก่อน เพราะช่วงบ่ายยังมีการเรียนการสอนตามปกติ
ต้าร์กับเพื่อน ๆ ชาวเหนือ ยังคงตามล่าหาลายเซ็นกันอย่างต่อเนื่อง
จนถึงวันงานบายศรีสู่ขวัญของชาวเหนือ ที่จัดขึ้นกันทุกปีที่ร้านอาหารหน้ามหาวิทยาลัย
วันนี้ชาวเหนือมากหน้าหลายตากว่าร้อยชีวิต มาชุมนุมกัน เพื่อสร้างมิตรภาพระหว่างพี่น้องลูกข้าวนึ่ง
มีทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องและอาจารย์ที่มีภูมิลำเนาจากถิ่นเหนือด้วยกัน
สวัสดีครับ สวัสดีเจ้า
เสียงทักทายอันนุ่มนวลตามสำเนียงเสียงล้านนาดังขึ้น ทุกคนพร้อมใจกันสวมเสื้อที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษเฉพาะของชาวเหนือเท่านั้น
ซึ่งเป็นเสื้อยืดคอกลมสีดำ สกรีนด้านหน้าเป็นคำว่า 'หมู่เฮาจาวเหนือ'
ล้อมรอบเป็นรูปครึ่งวงกลมด้วยคำว่า
'SURANAREE UNIVERSITY OF TECHNOLOGY' ส่วนด้านหลังเป็นรูปกาแลไขว้กันอยู่
มีตัวหนังสือล้านนาอยู่ใต้กาแลเขียนไว้ว่า ฮักล้านนาบ่อฮู้ปอ ฮัก
มทส บ่อฮู้ก้าย ซึ่งเป็นสำนวนที่มีความหมายว่า มีความรักในความเป็นล้านนาไม่มีที่สิ้นสุด
อีกทั้งยังรักในสถาบันอันทรงเกียรติที่มีนามว่า มทส แห่งนี้ไม่มีวันคลายอีกด้วย
บรรยากาศภายในงานถูกเนรมิตขึ้นใหม่ ให้ดูเหมือนเป็นบรรยากาศแบบล้านนา
ประดับป้ายผ้า โคมไฟ อีกทั้งยังมีเพลงบรรเลงสะล้อ ซอ ซึง ต๊ะตึ่งโมง
อีกด้วย ทุกคนร่วมรับประทานอาหารค่ำด้วยเมนูอาหารเหนือนานาชนิด ทั้งลาบ
ผักกาดจอ ขนมจีนน้ำเงี้ยว แกงโฮะ แกงฮังเล น้ำพริกอ่อง แคบหมู ฯลฯ
ล้วนแต่เป็นอาหารที่หากินได้ยากยิ่งนัก เมื่อมาเรียนอยู่ที่นี่
หลังจากที่ร่วมรับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว ตัวแทนรุ่นพี่ก็บอกให้น้อง
ๆ ออกไปคอยอยู่ข้างนอก เพื่อจะได้เก็บกวาดและจัดเตรียมสถานที่เพื่อเข้าสู่พิธีบายศรีสู่ขวัญ
ซึ่งเป็นพิธีที่สำคัญของงานในครั้งนี้
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว พี่ ๆ รวมน้องอยู่ด้านนอกร้าน ก็บอกให้น้อง
ๆ อยู่ในความสงบ และหลับตาลง
น้อง ๆ ครับ ถึงแม้ว่าเฮาจะมาจากตี้ใดก่อต๋าม
แต่สิ่งตี้รุ่นปี้อยากหัน นอกจากความฮักในสถาบันแล้ว ก่อยังอยากหื้อหมู่เฮาฮักกั๋น
มีอะหยังก่อจ้วยเหลือกั๋น บ่ะดีทะเลาะกั๋น ถ้าผ่านค่ำคืนนี้แล้ว รุ่นปี้ทุกคนถือว่าเฮาสัญญากั๋นแล้วนะครับ
อ้ายขอหื้อน้อง ๆ ตั้งใจ๋ฮับในสิ่งที่หมู่รุ่นปี้จะหื้อหลังจากนี้นะครับ
ขอหื้อน้อง ๆ ก๋ำมือกั๋นแล้วจะมีคนปาน้อง ๆ ไปตี้พิธีน่ะครับ
สิ้นเสียงจากรุ่นพี่ น้อง ๆ ทุกคนก็ทยอยเดินผ่านซุ้มประตูแห่งมิตรภาพ
เข้ามายังบริเวณพิธีที่ถูกประดับประดาไปด้วยเทียนน้อยใหญ่ ส่องแสงรำไรไปทั่วทั้งบริเวณงาน
บวกกับเสียงสะล้อซอซึงที่คอยขับกล่อมอย่างนุ่มนวล มีรุ่นพี่รอรับน้อง
ๆ อยู่โดยรอบ มีพานบายศรีที่ประดับด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ และยังอาจารย์นั่งอยู่ตรงกลางพิธี....
ช่างเป็นบรรยากาศที่อบอุ่นซะยิ่งกระไร
น้อง ๆ ก้อย ๆ นั่งลงครับ ก๋ำมือกั๋นไว้ก่อน อย่าเพิ่งลืมต๋าขึ้นเตื้อนะครับ
ตัวแทนรุ่นพี่กล่าว
พอทุกอย่างพร้อมแล้ว เสียงบรรเลงเพลงค่อย ๆ เงียบลง ตามมาด้วยเพลงรับขวัญที่เหล่าบรรดาพี่
ๆ ร่วมใจกันร้องขึ้นมา ให้กับน้อง ๆ
โอ...โอ้ละเหนอ ... เออ..เอ่อ..น้องเอย.......โอ้เจ้าน้องเอย
พี่จะขอชื่นเชย จะไม่เลยแรมไกล จะรักเจ้าดั่งดวงใจ มิคลายหน่ายนา...ล้าลาล้าลาลา.........
พอสิ้นเสียงเพลงรับขวัญ ตัวแทนรุ่นพี่ก็บอกให้น้อง ๆ ค่อย ๆ ปล่อยมือแล้วค่อย
ๆ ลืมตาขึ้น และสิ่งที่น้อง ๆ ได้สัมผัสนั่นก็คือ บรรยากาศที่มีเพียงความมืดและแสงเทียนจากรุ่นพี่ที่นั่งอยู่ข้างหลังน้อง
ๆ กว่าห้าสิบชีวิต กำลังส่องแสงเปล่งประกายไปทั่วงาน
น้อง ๆ ครับ หลังจากนี้ หื้อน้อง ๆ ทยอยเข้าไปหาอาจ๋ารย์
เพื่อผูกข้อมือหื้อกับน้องไว้เป๋นศิริมงคล แล้วก่อทยอยหื้อรุ่นปี้มัดตวยเน่อครับ
พอเสร็จแล้วเดียวเฮาจะได้เริ่มกิจกรรมต่อไปครับ
พอสิ้นคำกล่าวจากรุ่นพี่แล้ว เสียงเพลงสะล้อซอซึงก็บรรเลงขึ้นมาอีกครั้ง
พร้อมกับบรรยากาศแห่งมิตรภาพที่กำลังเกิดขึ้นอีกครั้ง