วันเวลา...ล่วงเลยมาถึงช่วงใกล้สอบปลายภาคเข้ามาทุกที
ยิ่งทำให้ต้าร์และเพื่อน ๆ ต้องรีบตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือกันมากขึ้น
เพราะนอกจากจะเตรียมตัวสอบแล้ว ต้าร์ยังต้องเตรียมกิจกรรมสำหรับทำค่ายของชมรมอนุรักษ์ฯ
อีกด้วย ต้าร์ได้รับหน้าที่เป็นสันทนาการและมือกีต้าร์ของชมรม ซึ่งได้มีโอกาสฝึกร้องฝึกเล่นเพลงของชมรมกับพี่เอก
มือกีต้าร์ของชมรมเพียงแค่วันเดียว ดังนั้นเค้าจึงต้องขุดเอาทักษะและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์
แต่พี่เอกก็บอกกับต้าร์ว่า จะช่วยเล่นให้ในช่วงพิธีการ ซึ่งก็ทำให้ต้าร์รู้สึกอุ่นใจขี้นมาบ้าง
พี่นพและพี่แอ๊ะนัดต้าร์ ป้อม แชมป์
และแหม่ม เพื่อนใหม่รุ่นราวคราวเดียวกับกับต้าร์ มาซักซ้อมเพลงต่าง
ๆ ที่จะใช้ในค่ายกว่า 20 เพลง รวมถึงกิจกรรมกลุ่มประเภทเกมส์อีกด้วย
โดยใช้เวลาก่อนสอบปลายภาคประมาณ 1 เดือน เพื่อฝึกปรือวิทยายุทธ ด้วยความที่เป็นน้องใหม่ของชมรม
และต้องเล่นกีต้าร์ด้วย ต้าร์จึงต้องขยันซ้อมเป็นสองเท่าเลยทีเดียว
สวัสดีครับแม่
นี่ต้าร์หนาครับ แม่สบายดีก่อ
ต้าร์โทรศัพท์กลับไปบ้านหาแม่
อ้าว
ต้าร์ก๊า สวัสดีจ่ะ แม่สบายดี ลูกลอ
แม่ทักทายต้าร์
ต้าร์สบายดีครับ
แม่เยี๊ยะอะหยังอยู่ครับ กิ๋นข้าวแลงละก๊าครับ
ต้าร์ถาม
แม่กิ๋นก๋ำลังเสร็จนิ
นี่ก็ทุ่มกว่าแล้ว กิ๋นข้าวหรือยังล่ะเนี่ย
แม่ถามด้วยความเป็นห่วง
เรียบร้อยละครับแม่
พอดีต้าร์มาซ้อมทำกิจกรรมของชมรม ต้องเตรียมตั๋วไปออกค่ายช่วงปิ๊ดเทอมนี้อ่ะครับ
ต้าร์ว่าจะขออนุญาตแม่ไปละครับ พอเสร็จค่ายก่อก้อยปิ๊กบ้าน เน่อครับแม่ครับ
ต้าร์อ้อน
ไปกันนักก่อน่ะ
แล้วไปตี้ไหนกันล่ะ
แม่ถามด้วยความเป็นห่วง
ไปกั๋นตึงชมรมเลยครับ
อาจ๋ารย์ก่อไปตวย เห็นปี้ ๆ เปิ้นบอกว่าจะไปอุทยานใกล้ ๆ นี่ล่ะครับ
คงบ่าไปไกล๋หรอกครับ
ต้าร์บอก
จะใดก่อดูแลตั๋วเก่าตวยละกั๋นเน่อ
แม่บอกกับต้าร์เชิงอนุญาต
ได้ครับแม่
แม่ก็ดูแลสุขภาพตวยเน่อครับ เต้าอี้ก่อนละกั๋นเนาะ เดี๋ยวต้าร์ไปเตรียมตั๋วซ้อมกับเพื่อน
ๆ ก่อน สวัสดีครับแม่
ต้าร์กล่าวลาแม่ พร้อมกับเดินกลับเข้ามารอพี่ ๆ ในห้องชมรม
ต้าร์โทรศัพท์ไปบอกให้ทางบ้านรับรู้เกี่ยวกับกิจกรรมในช่วงปิดเทอมก่อนกลับบ้าน
เพื่อที่จะได้ไม่ต้องห่วงและกังวลว่าสอบเสร็จแล้วจะกลับบ้านเมื่อไร พอทุกคนมาครบองค์ประชุมแล้ว
พี่นพก็เปิดฉากสอนวิทยายุทธ์ให้กับสันทนาการหน้าใหม่ทั้ง 4 คน ก่อนที่จะได้ออกไปประลองฝีมือในอีก
1 เดือนข้างหน้า
ในเช้าสดใสวันหนึ่ง
ซึ่งเป็นวันน้ำนอง ลูกหมูก็อยากจะร้อง ก็อยากจะร้องเล่นโคลน...
เมื่อยามเช้าแสงเงินแสงทองเริ่มส่องจากฟ้า
สกุณาบินมา บินมาร้องเพลงกังวาล
ต้นไม้นั้นสูงใหญ่ กิ่งใบให้ร่มเงา อีกยังช่วยเรา บรรเทาความร้อนจากกาย
เสียงร้องเพลงดังขึ้นอย่างสนุกสนาน
ต้าร์เลยถือโอกาสจับกีต้าร์ที่วางอยู่ตรงมุมห้องของชมรมมาลองดีดไปพร้อมกับร้องเพลง
อาจจะไม่เหมือนต้นฉบับ แต่ก็ช่วยสร้างบรรยากาศในการร้องได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว
พี่นพและพี่แอ๊ะ
คอยสอนเทคนิคและวิธีการร้อง ร่วมไปถึงวิธีการเล่นเกมส์ต่อหน้าคนกลุ่มเล็กและคนกลุ่มใหญ่ให้น้องใหม่ดู
โดยจะใช้เวลาประมาณ วันละ 1 ชั่วโมง ช่วง 2 3 ทุ่ม หลังอาหารค่ำ
โดยพยายามไม่ให้เบียดบังเวลาส่วนตัวของน้อง ๆ มากนัก ทุกคนมาฝึกฝนผีมือตนเอง
จนมาถึงช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการเรียน พี่นพจึงให้น้อง ๆ พักการซ้อมไว้ก่อน
หลังจากสอบเสร็จค่อยกลับมาซ้อมต่อ เพื่อที่จะได้ไปเตรียมตัวสำหรับสอบปลายภาคได้อย่างเต็มที่
หนึ่งสัปดาห์สุดท้ายก่อนสอบ
ต้าร์และเพื่อน ๆ ในกลุ่มต่างขะมักเขม้นอ่นหนังสือเตรียมสอบกันอย่างหนัก
เพราะการเรียนที่นี่แบบไตรภาค หรือ 3 ภาคการศึกษา ซึ่งก็รู้กันดีว่ามีเวลาเรียนน้อย
ต้องขยันอ่านและทบทวนอยู่เสมอ มิฉะนั้นจะอ่านหนังสือในช่วงสอบไม่ทัน
เมื่อการสอบปลายภาคเสร็จสิ้นลง ต้าร์รู้สึกกังวลกับวิชาแคลคูลัสอยู่ไม่น้อย
เพราะหลายคนที่คะแนนน้อยพากันถอนในรายวิชานี้ เพื่อลงทะเบียนใหม่ในเทอมถัดไปเป็นร้อย
ๆ คน ซึ่งทำให้ค่าเฉลี่ยของคะแนนสูงขึ้นตามไปด้วย และนั่นอาจจะเป็นปัญหาทำให้ต้ารได้คะแนนต่ำกว่ามาตรฐาน
หรือไม่ผ่านในรายวิชานี้ก็เป็นได้
สงสัยเกรดออกมาไม่ดีแน่
ๆ เลย เฮ่อ!!
ต้ารพึมพำพลางถอนหายใจ
ไม่หรอกมั้ง
รอดูเกรดออกก่อนละกัน อย่าเพิ่งคิดมาก
ป้อมให้กำลังใจ
อือ
งั้นช่างมันเหอะ ตอนนี้ลืมไปก่อนละกัน อีกไม่กี่วันก็จะได้ออกค่ายแล้ว
พรุ่งนี้พี่ ๆ นัดให้ไปซ้อมทำกิจกรรม งั้นวันนี้ไปกินนมหน้ามอ ฉลองสอบเสร็จกันเถอะ
พวกเรา ต้าร์หันไปชวนเพื่อนๆ
ระห่างนั่งเล่นอยู่ที่ห้องของเอฟ
ก็ดีเหมือนกัน
แต่ต้องไปกินข้าวก่อนนะ เพราะเราหิวมากเลยตอนนี้อ่ะ
เอฟพูด
โอเค
งั้นเดี๋ยวโทรไปนัดบีกับพจน์ก่อนละกัน
เป้อาสาโทรติดต่อสาว ๆ ของกลุ่มให้ทราบเกี่ยวกับภารกิจในค่ำคืนนี้
ฮาโหล
สวัสดีครับ ขอสายบีครับ
เป้ทักทายคู่สาย
บีพูดค่ะ
เสียงคู่สายทักทายกลับมา
บี
นี่เป้นะ เดี๋ยวพวกเราจะไปทานข้าวหน้ามอกัน แล้วจะไปต่อที่ร้านนมตาโอ
ไปด้วยกันไหม ชวนพจน์ด้วย
เป้พูด
ไป
ๆ ๆ เดี๋ยวบอกพจน์ให้ละกัน แล้วจะไปกี่โมงล่ะ
บีถาม
อืม
อีกประมาณ 15 นาที จะไปรับละกันนะ
เป้บอก
ได้
ๆ งั้นเดี๋ยวพวกบีไปรออยู่ใต้หอละกันนะ แค่นี้ล่ะ
บีพูด
จ้า
เป้รับคำ
พร้อมกับวางหูโทรศัพท์ไป แล้วหันมาบอกกับเพื่อน ๆ ภายในกลุ่มว่า อีกประมาณ
15 นาที จะเคลื่อนขบวนไปฉลองสอบเสร็จกันที่หน้ามหาวิทยาลัย
บรรยากาศหน้ามอคราคร่ำไปด้วยผู้คน ต่างก็ออกมาหาแหล่งฉลองสอบเสร็จกันทั้งนั้น
ต้าร์และเพื่อน ๆ เลือกที่จะเข้าไปนั่งในร้านที่มีคนไม่มากนัก ไม่อย่างนั้นมีหวังได้กินกันพรุ่งนี้แน่นอน
หลังจากมื้อค่ำผ่านพ้นไป บรรดาหนุ่มสาวทั้หลายก็มุ่งหน้าไปยังร้านตาโอกันต่อ
ร้านนมตาโอ
เป็นร้านนมที่ต้องนั่งกับพื้นมีเบาะนั่งบนเสื่อผืนใหญ่ มีโต๊ะเล็ก
ๆ วางเรียงรายคอยต้อนรับแขกเหรื่อผู้มาเยือนอย่างสวยงาม บรรยากาศภายใต้แสงเดือนแสงดาว
และแสงจากตะเกียงดวงเล็ก ๆ บนโต๊ะ ทำให้อารมณ์ในการกินช่างมีความสุขเสียยิ่งกระไร
ต้าร์และเพื่อน
ๆ นั่งกินไป คุยไป ถึงเรื่องสอบบ้าง เรื่องภายในกลุ่มบ้าง เฮฮาตามสไตล์ของพวกเขาเอง
จนเวลาล่วงเลยมาถึงสี่ทุ่มกว่า ๆ จึงได้ชวนกันกลับหอพัก เผื่อว่าบางคนจะได้กลับไปเก็บของเพื่อนกลับบ้านก่อนในช่วงปิดเทอมนี้
รุ่งเช้า
ต้าร์ นัย และพี่เมทสุดหล่อ ยังคงนอนนิ่ง ไม่ขยับกายอยู่ภายใต้ผ้าห่มอุ่น
ๆ บนเตียงของตนเอง เพราะวันนี้เป็นวันปิดภาคการศึกษาวันแรก แต่หอพักไม่ปิด
จึงถือว่าเป็นโชคดีของนักศึกษาที่ไม่ได้กลับบ้าน รวมทั้งต้าร์กับนัยด้วย
ซึ่งทั้งสองคนนัดกันไปที่ชมรมตอนสาย ๆ เพื่อเตรียมกิจกรรมสำหรับออกค่าย
เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึง
10 โมงกว่า ๆ ต้าร์จึงลุกขึ้นมาปลุกนัย ซึ่งนอนอยู่บนเตียงใกล้ ๆ ให้ตื่นเพื่อเตรียมตัวไปชมรม
ซึ่งต้าร์ก็ได้นัด ป้อม อาร์ต หนึ่ง นะ ปิ๊ก นุ ป้อม และแชมป์ เอาไว้ด้วยเช่นกัน
ส่วนคนอื่น ๆ ขอตัวกลับบ้านก่อน แต่สัญญาเอาไว้ว่าค่ายต่อไปไม่พลาดแน่นอน
เมื่อทุกคนไปถึงชมรม
ต่างก็ตรงไปทานข้าวเพิ่มพลังชีวิตกันก่อน เพื่อที่จะได้เริ่มปฏิบัติงานของตนเอง
นี่พวกเรา
กินเสร็จแล้วรีบไปที่ห้องชมรมนะ พี่ ๆ เค้ารออยู่ คงได้เตรียมของเยอะเลย
อาร์ตป่าวประกาศให้เพื่อน
ๆ รู้
พี่นพและพี่แอ๊ะ
ชวนพี่เบศก์ พี่ชายคนโตของทีมสันทนาการและน้อง ๆ ทีมสันทนาการ ไปซ้อมกิจกรรมบริเวณห้องโถง
หรือโดม อาคารส่วนกิจการนักศึกษา ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับห้องชมรมนี่เอง
ซึ่งเหมาะสำหรับฝึกวิทยายุทธ์เป็นอย่างมาก เพราะค่อนข้างที่จะเป็นส่วนตัว
ไม่มีใครมารบกวน
อ่ะ
เดี่ยวให้น้อง ๆ ทบทวนเพลงเก่า ๆ ที่เราเคยซ้อมกันหน่อยละกัน เปิดเนื้อเพลงดูไปด้วยก็ได้
พี่นพแนะนำน้อง
ๆ พร้อมกับแจกหนังสือค่ายรุ่นเก่า ๆ ให้
...ฟัง
ๆ เสียงฉันเดินสิ ฟัง ๆ เสียงฉันเดินสิ ก่อบ ก๊อบ ก่อบ
เจ้านกกระเรียนมายืนเพี้ยน
ๆ ขาเดียวได้ไง ยามท้องฟ้าแจ่มใส มันยืนอยู่ในหนองน้ำ...
เสียงเพลงจากน้อง
ๆ สันทนาการมือใหม่ดังระงมไปทั่วห้อง สร้างบรรยากาศให้ครื้นเครงได้ดีทีเดียว
พี่เบศก์ ในฐานนะแก่สุด เอ๊ย! เป็นพี่ใหญ่สุดของทีม ได้สอนเทคนิคเพิ่มเติมให้
และมีการทดสอบเป็นระยะ ๆ
ทีมงานของชมรมมีเวลาเตรียมงานเพียง
5 วัน ก่อนออกปฏิบัติงานจริง ดังนั้น แต่ละฝ่ายจึงต้องรีบดำเนินการในหลาย
ๆ เรื่องอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เสร็จทันเวลา ซึ่งฝ่ายที่จะต้องเตรียมตัวมากหน่อยคงจะเป็นฝ่ายสวัสดิการ
และฝ่ายกิจกรรม เพราะนอกจากจะต้องเตรียมอุปกรณ์หลักแล้ว ยังต้องมีแผนสำรองไว้ด้วย
เผื่อมีเหตุฉุกเฉิน จะได้เปลี่ยนแผนได้ทันท่วงที และอีกฝ่ายที่ดูจะปวดหัวไม่น้อยเลยนั่นก็คือ
ฝ่ายอาหาร เพราะต้องคิดเมนูอาหารกว่า 7 มื้อให้กับทีมงานกว่า 50 ชีวิต
อีกทั้งต้องเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปอีก จึงค่อนข้างวุ่นวายพอสมควร ส่วนฝ่ายพี่เลี้ยงก็ต้องเตรียมตัวมากอยู่เหมือนกัน
ทั้งความรู้ที่ต้องพกไปถ่ายทอดให้น้อง ๆ ได้ซึมซับกับคำว่าจิตสำนึกที่จะต้องติดตัวอยู่ตลอดไป
จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับฝ่ายนี้ กว่าจะได้น้องใหม่ 5 คนที่มาประกบกับรุ่นพี่
ก็ใช้เวลาค้นหายิ่งกว่าอะคาเดมี่แฟนเตเชียเสียอีก
...ดู
ๆ ไปแล้ว การที่จะทำค่ายออกมาได้ซักค่ายนั้น มันก็ไม่ได้ง่ายเหมือนที่หลาย
ๆ คนคิดเลย เบื้องหน้าอาจจะเห็นความสนุกสนานร่าเริง แต่ใครเล่าจะรู้ว่า
เบื้องหลังการทำงานตามรอยของ สืบ นาคะเสถียร มันก็ไม่ได้จัดเป็นฉาก
ๆ ไว้ให้เหมือนในละคร บางครั้งการทำงานอาจจะแลกมาด้วยน้ำตาก็เป็นได้
การเตรียมงานจึงเป็นเรื่องสำคัญ และทุกคนจะสามารถได้ว่า ค่ายนี้ประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น
คงต้องรอให้ถึงวันสุดท้ายของการกิจกรรมนี้นั่นเอง...