ผ่านมาแล้วห้าวัน... กับการเรียนในระดับอุดมศึกษาของต้าร์ แต่ก็ยังไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นมากมาย เพราะในช่วงสัปดาห์แรก เป็นการปรับตัวในการเรียนในระดับอุดมศึกษา ต้าร์ได้เพื่อนใหม่อีกหลายคนที่เรียนในวิชาเดียวกัน อีกทั้งยังมีกลุ่มเพื่อนใหม่ที่มีอาจารย์ที่ปรึกษาคนเดียวกันอีกกว่าสิบคน และอาจารย์ที่จะคอยให้คำปรึกษาต้าร์และเพื่อน ๆ ในกลุ่มใหม่ก็คือ อ.ชาญณรงค์ หรือที่ใคร ๆ เค้าก็เรียกกันว่า อ.จอร์จ แต่หลังจากขึ้นปี 2 ต้าร์ก็จะมีอาจารย์ที่ปรึกษาคนใหม่ ประจำสาขาวิชาที่จนเองเรียน

     การเรียนในระดับอุดมศึกษาจะแตกต่างจากการเรียนสมัยมัธยม เพราะไม่ได้เรียนเช้าเลิกเย็น แต่เป็นการเรียนตามตาราง มีเว้นวรรคทางการเรียนบ้างเป็นบางชั่วโมง ในเทอมแรกทางมหาวิทยาลัยจะจัดตารางเรียนให้ แต่หลังจากนั้น ให้นักศึกษาเป็นผู้วางแผนการเรียนด้วยตัวเอง โดยมีหลักสูตรแนะนำว่า แต่ละสาขาวิชา ในแต่ละเทอมจะต้องลงวิชาเรียนอะไรบ้าง วิชาที่ต้าร์ชอบมากที่สุดก็เห็นจะเป็นวิชาภาษาอังกฤษ เพราะไม่ได้เรียนเหมือนกันทุกคน ทางมหาวิทยาลัยมีการสอบวัดระดับของภาษาอังกฤษ แล้วให้เรียนเริ่มต้นในระดับที่ตนเองสอบได้ ซึ่งมี 5 ระดับ ต้าร์กับเอฟสอบได้ในระดับที่ 3 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับดี สูงสุดถึงระดับ 4 ก็มีป้อมกับบี ที่สามารถสอบไปถึงระดับนี้ได้ ส่วนคนอื่น ๆ ก็ได้ ระดับ 2 และระดับ 1 แล้วแต่ความสามารถของตนเอง

     การเรียนในสัปดาห์แรกจะเน้นให้ทุกคนปรับตัวให้เข้ากับมหาวิทยาลัย และหลักสูตรในระดับอุดมศึกษา และในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีการแข่งขันกีฬาน้องใหม่ ซึ่งมีรุ่นพี่จากกลุ่มสัมพันธ์มาช่วยเล่นให้ด้วย ต้าร์ได้เล่นกีฬาวอลเลย์บอล เพราะเป็นกีฬาที่พอจะเล่นได้บ้าง ซึ่งก็สามารถเล่นได้อย่างประทับใจรุ่นพี่ และในทีมของต้าร์ มีนักกีฬาของมหาวิทยาลัยอยู่ด้วย ต้าร์จึงถูกจับตามองเป็นพิเศษ เพราะในทีมต้องการหาตัวนักกีฬาอยู่พอดี หลังจากที่จบการแข่งขันปรากฏว่าทีมของต้าร์ไม่ผ่านเข้ารอบ แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้าร์รู้สึกประทับใจ เพราะโค้ชของมหาวิทยาลัยเดินเข้ามาคุยด้วย และสนใจที่จะให้ลองเข้ามาคัดเลือกเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลของมหาวิทยาลัย

     “หนุ่มน้อย สนใจจะมาเป็นนักกีฬามหา’ลัย หรือเปล่า เห็นเราเล่นใช้ได้เลยนี่”

     “ขอบคุณครับ แต่ขอดูก่อนได้ไหมครับ กลัวว่าจะไม่มีเวลามาช่วยซ้อมน่ะครับ”

     ต้าร์ปฏิเสธแบบนิ่มนวลด้วยเหตุผลที่ว่า ขอให้ปรับตัวกับการเรียนที่นี่ให้เป็นปกติก่อน ถ้าหากพร้อมยินดีที่มาซ้อมด้วย

     ถึงแม้ว่าทีมของต้าร์จะผ่านเข้ารอบแค่ 4 ทีมสุดท้าย ต้าร์ก็พอใจกับผลงานที่ออกมา เพราะนอกจากจะได้แข่งกับทีมแกร่ง ๆ ของมหาวิทยาลัยแล้ว ยังได้รับการเชิญชวนให้มาร่วมทีมอีกด้วย

     และแล้วก็ถึงวันที่น้องใหม่เฟรชชี่ต้องมารวมตัวกันอีกครั้ง เพราะวันนี้กลุ่มสัมพันธ์ต่าง ๆ ต้องมาแสดงความสามารถของแต่ละกลุ่มให้กับเพื่อน ๆ ได้ดู กลุ่มของต้าร์จับฉลากได้อันดับสุดท้าย จากทั้งหมด 11 กลุ่ม จึงมีโอกาสได้ดูฝีมือการแสดงจากเพื่อน ๆ กลุ่มอื่นก่อน สำหรับการแสดงนั้น แต่ละกลุ่มก็งัดทีเด็ดของตนเองมาแสดงกันแบบไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว กลุ่มที่หนักใจสุด ๆ ตอนนี้เห็นจะเป็นกลุ่มของต้าร์ เพราะมุกที่เตรียมกันไว้ตอนนี้ ถูกเพื่อน ๆ กลุ่มอื่นหยิบออกมาใช้ซะเกือบหมด แม้กระทั่งเรื่องที่แสดง ยังเป็นเรื่องเดียวกันอีกต่างหาก ดังนั้นจึงจำเป็นที่ต้องมีการเปลี่ยนการแสดงกะทันหัน จากซินเดอเรล่า เป็นเรื่องอื่น

     สุดท้ายภายในกลุ่มมีความเห็นว่า จะถ่ายทอดเรื่องราวของ ‘น้องตุ้ม’ นักมวยสาวประเภทสอง เพราะช่วงนี้ โฆษณา พ่อไม่เข้าใจตุ้มกำลังดังระเบิดระเบ้อ ซึ่งงานนี้ทุกคนเลือก อาร์ต เพื่อนในกลุ่มของต้าร์ หนุ่มเหนือ ที่มองยังไงก็คัดค้านสายตาตัวเอง มารับบทนี้

      พอถึงวันที่ต้องแสดง ถึงแม้ว่าบางฉากจะเรียกเสียงฮาได้บ้าง แต่ก็เหมือนจะยังไม่เต็มที่

     ‘พี่อี๊ด’ สาวเหนือรุ่นพี่ ที่ดูจะซี้กับต้าร์เป็นพิเศษ เพราะเป็นเด็กเหนือเหมือนกัน ส่งต้าร์ไปสรุปเรื่อง แล้วปลุกระดมอารมณ์ให้เพื่อน ๆ ได้คึกคัก

     “ ต้าร์.... พี่คิดว่าต้าร์เหมาะสมที่สุดสำหรับการกอบกู้เอกราชในครั้งนี้ ... ไปโล้ด!!!”

      พี่อี๊ดบอกกับต้าร์พร้อมถีบต้าร์ออกมาด้วยคำพูดติดอีสาน

     “จ๊าก..ก...ก”

     “ครับ... หลังจากที่จบการแสดงไปแล้ว พวกเราคงเห็นว่า กะเทย ไม่ได้เป็นเพศที่น่ากลัวเลย เพียงแต่เป็นเพศที่น่ากลัวมากต่างหาก โดยเฉพาะน้องตุ้ม มิน่าล่ะครับ พ่อถึงไม่เข้าใจตุ้ม ใช่ไหมครับน้องตุ้ม” ต้าร์พูด

     “ย่ะ อย่าพูดมาก เดี๋ยวเตะเลยนี่” อาร์ตตอบ ในขณะที่ยังไม่สลัดคราบน้องตุ้ม ทำเอาเพื่อน ๆ ส่งเสียงแซว

     “ฮิ้ว...ว........ว”

     “เอาล่ะครับ... ทีนี้เราลองมาเปลี่ยนบรรยากาศกันหน่อยดีกว่านะครับ หลังจากที่เมื่อยกันมานาน เรามาพบกับความบันเทิงทิ้งท้ายจากกลุ่มของเรากันหน่อยนะครับ”

ต้าร์เปลี่ยนอารมณ์เพื่อน ๆ ด้วยเกมส์ทักษะสัมผัส นั่นคือเกมส์หัวเอวไหล่ ถึงแม้จะเป็นเกมส์ง่าย ๆ แต่ก็ทำเอาหลายคน เผลอเอามือทิ่มหน้าทิ่มตากันเลยทีเดียว หลังจากที่ต้าร์สร้างบรรยากาศให้ดีขึ้นแล้ว จึงได้กล่าวจบการแสดงของกลุ่ม

     “เอาล่ะครับ...หวังว่าวันนี้ เพื่อน ๆ คงได้สนุกสนานกันอย่างเต็มที่นะครับ ขอให้ทุกคนเก็บบรรยากาศดี ๆ แบบนี้เอาไว้ให้นาน ๆ นะครับ ขอบคุณพี่ ๆ สตาร์ฟ และพี่ ๆ ทีมงานองค์การนักศึกษาทุกคนที่ได้จัดกิจกรรมนี้ให้กับพวกเรา และหวังว่ากิจกรรมดี ๆ แบบนี้จะเกิดขึ้นอีก ให้กับรุ่นน้องของพวกเราครับ ขอบคุณครับ”

     พอต้าร์พูดจบ เสียงปรบมือของเพื่อนๆ และพี่ ๆ รอบสนาม ดังกึกก้อง ราวกับ เสียงปรบมือแสดงความยินดีที่มักจะได้ยินกับคนที่กำลังประสบความสำเร็จ ทำเอาต้าร์ยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะมีเสียงปรบมือจากชาว มทส ด้วยกันเองแล้ว ยังมีพี่ ๆ จาก มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ที่มาศึกษาดูงานกิจกรรมรับน้องปรบมือให้อีกด้วย ใครล่ะจะอดใจไหว

     ระหว่างทางเดินไปที่กลุ่ม มีพี่คนหนึ่งเอ่ยปากทักต้าร์ขึ้นมา

     “น้องต้าร์ครับ สนใจสมัครเป็นสมาชิกองค์การบริหารไหมครับ”

     “แหะ ๆ ขอดูก่อนนะครับ เพราะผมอาจจะยังไม่พร้อมที่จะทำงานนี้ครับ ขอบคุณนะครับที่ให้โอกาสนี้”

     ต้าร์ตอบเชิงปฏิเสธอย่างนุ่มนวล

     “ถ้าน้องพร้อม ก็เข้ามาสมัครกับพี่ได้นะครับ เพราะพวกพี่ ๆ อยากได้น้องเข้ามาร่วมงานด้วยกัน”

     ทีมงานองค์การนักศึกษาตอบ เหมือนยังมีความหวัง แต่ต้าร์ก็ได้แต่ยิ้มให้แล้วเดินเข้าไปในกลุ่มของตน

     “สุดยอดเลยเพื่อนเรา” เสียงเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มตะโกนออกมาพร้อมกับยกนิ้วให้กับความสำเร็จนี้

     “เพื่อกลุ่ม...เต็มที่อยู่แล้ว” ต้าร์บอกกับเพื่อน พร้อมใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม

     ค่ำคืนนี้คงทำให้เด็กหนุ่มคนนี้ฝันดีทั้งคืนอีกครั้ง หลังจากที่เหมือนตัวเองจะประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตัวเองทำ เพียงแค่กิจกรรมรับน้อง มันก็ทำให้เด็กหนุ่มคนนี้มีความสุขกับการเข้ามาอยู่ในรั้ว มทส แห่งนี้ซะแล้วสิ

     รุ่งขึ้น ต้าร์และเพื่อน ๆ ก็ตื่นไปเรียนตามปกติ แต่วันนี้อาจจะแปลก ๆ กว่าทุกวันหน่อย เพราะมีมากมายสายตาที่มองมาหาต้าร์ อาจจะเป็นเพราะกิจกรรมเมื่อคืนนั่นเอง

     วันนี้ป้อมมาพร้อมกับกระดาษสีขาวหลายแผ่น ใบสมัครสมาชิกสมาชิกชมรมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมนั่นเอง ทีแรกเพื่อน ๆ ในกลุ่มแปลกใจที่เห็นป้อมเอาใบสมัครมาให้ทุกคนเขียน ยิ่งกว่าเป็นตัวแทนขายประกัน แต่ที่ไหนได้ พี่เมทของป้อม ‘พี่หนอม’ เด็กหนุ่มชาวสุพรรณ เป็นประธานชมรมฯ นั่นเอง ป้อมถึงอาสาหาสมาชิกใหม่ของชมรมให้ โดยให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มเข้าร่วมเป็นสมาชิกชมรม

     ทุกคนยินดีที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิก เพราะเห็นแก่ป้อม และอีกอย่าง สามารถเข้าได้หลายชมรมโดยไม่มีการบังคับ นอกจากนี้ต้าร์ยังได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกชมรมดนตรีสากลอีกด้วย เพราะสมัยเรียนในระดับมัธยม ต้าร์เคยเป็นนักดนตรีประจำโรงเรียนมาก่อน อีกทั้งยังเคยคว้ารางวัลระดับจังหวัดมาอีกด้วย ต้าร์จึงสนใจที่จะสานต่องานทางด้านดนตรีของตนอีกครั้งหนึ่ง แต่สุดท้าย ต้าร์ก็เลือกที่จะเข้าชมรมอนุรักษ์ฯ เพราะกลัวว่าจะไม่มีเวลาไปซ้อม และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เพื่อน ๆ ภายในกลุ่มอยู่ชมรมอนุรักษ์ฯ กัน และต้าร์บอกกับตัวเองไว้ว่าจะขอเริ่มต้นกับชีวิตของนักกิจกรรมด้วยชมรมนี้ก่อน

     “เฮ่..! พวกเรา วันเสาร์นี้ พี่ ๆ ชมรมอนุรักษ์ฯ ชวนไปปลูกต้นไม้น่ะ ไปกันไหม”

     ป้อมบอกเพื่อน ๆ ในขณะที่เพื่อน ๆ กำลังสาละวนอยู่กับการกรอกใบสมัคร

     “เออ.!! ดีเหมือนกันนะ จะได้ไปเปิดหูเปิดตากับพี่ ๆ บ้าง คงสนุกไปอีกแบบ” เอฟพูด

     “ดีเลย งั้นวันเสาร์นี้ 09.00 น. เจอพวกพี่ ๆ ที่ห้องชมรมนะ เอาล่ะ ไปเรียนกันได้แล้ว”

     ป้อมนัดแนะกับเพื่อน ๆ พร้อมไล่เพื่อน ๆ ให้ไปเรียน ก่อนที่จะสายมากเกินไป

     “เรียนเสร็จแล้ว ตอนเย็นเจอกันที่รถนะ ตอนเย็นจะได้ไปหาอะไรกินกัน” เอฟบอกเพื่อน ก่อนจะแยกกัน

     “โอเค... ได้เลยเพื่อน” เพื่อนในกลุ่มตอบ

     พอถึงเวลาเลิกเรียน เสียงนักศึกษาทั้งรุ่นน้องและรุ่นพี่ดังเจี๊ยวจ๊าว ต่างก็ทยอยออกมาจากห้องเรียนกันเต็มไปหมด ราวกับเพิ่งเลิกดูภาพยนตร์จากโรงหนังชื่อดังในห้างสรรพสินค้า ต้าร์กับหนึ่ง เดินออกมาพร้อมกัน เจอกับเอฟที่หน้าห้องเรียนพอดี จึงได้ชวนกันเดินไปที่รถ เพื่อรวมพล เมื่อไปถึงรถ ก็ได้เจอ บีกับพจน์ รออยู่ก่อนแล้ว ซักพักเพื่อน ๆ แต่ละคนก็ทยอยกันมาจนครบองค์ประชุม

     “เย็นนี้ไปเที่ยวเซฟวันกันดีไหม” ป้อมเสนอความคิดเห็น เมื่อทุกคนอยู่พร้อมหน้ากัน

     “มันคืออีหยังล่ะบักป้วม..เซฟวันน่ะ” นะถามด้วยความฉงนในสิ่งที่ป้อมเอ่ยออกมาด้วยสำเนียงอีสาน

     “มันคือตลาดนัดมือสองน่ะ ฮู้จักบ่อ บักนะเอ๊ย” ป้อมตอบแบบกวน

     “บักฮานิแมะ” นะค้อนพร้อมกับมองป้อมด้วยหางตา

     “เออ..ก็ดีเหมือนกันนะ เราเคยไปเที่ยวแต่ที่เชียงใหม่ อยากรู้เหมือนกันว่าที่นี่เป็นยังไง”

     ต้าร์ออกความคิดเห็น ในขณะที่เพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ก็เห็นด้วย จึงตกลงกันว่า เย็นนี้จะไปเที่ยวเซฟวันกัน

     พอไปถึงตลาดนัดมือสองเซฟวัน เหล่าบรรดานักล่าฝัน เอ๊ย ไม่ใช่สิ บรรดาเฟรชชี่น้องใหม่ไฟแรงกลุ่มนี้ก็รีบมุ่งหน้าไปยังจุดต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ต้าร์เลือกที่จะไปเดินจากที่ไกลสุดก่อน แล้วค่อย ๆ กลับมา เพราะจะได้ดูแบบเต็มทีทุกซอกทุกซอย

     เซฟวัน...เป็นตลาดนัดมือสองแห่งเดียวในบริเวณใกล้เคียงกับมหาวิทยาลัย ใช้เวลาเพียงแค่ 10 นาที ในการเดินทางมาเที่ยว ก็จะได้สัมผัสบรรยากาศของตลาดขนาดใหญ่ ที่มีสินค้าทั้งใหม่และมือสอง มาจำหน่ายด้วยราคาที่ย่อมเยา คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายหลายพันชีวิต และที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ นักศึกษาของ มทส เพราะเป็นแหล่งชอปปิ้งที่ใกล้ที่สุดก็ว่าได้ จึงทำให้หลาย ๆ คนชอบที่จะมาเลือกซื้อสินค้ากลับไป

     ต้าร์และเพื่อน ๆ เดินกันจนทั่ว บางคนแทบขาลาก เหตุเพราะมีอาณาบริเวณกว้างเหลือเกิน ต้าร์และเพื่อนๆ ได้ของติดไม้ติดมือกลับมาคนละนิดคนละหน่อย พอถึงมหาวิทยาลัยต่างก็แยกย้ายกันกลับห้องของตนเอง

     เช้าวันเสาร์ ช่างเป็นเช้าที่มีบรรยากาศดีซะนี่กระไร ต้าร์และเพื่อน ๆ ต่างตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงโทรศัพท์ในห้องที่ดังอย่างต่อเนื่อง เพราะป้อมโทรจิกแต่ละคนให้รีบตื่น เพราะวันนี้นัดกันไปร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้กับพี่ ๆ ชมรมอนุรักษ์ฯ

     “นัย...ตื่นได้แล้ว ไอ้ป้อมโทรมาเรียกแล้ว เดี๋ยวจะไปไม่ทันพี่เค้านะ”

     ต้าร์ปลุกนัย เพื่อนเมทที่กำลังนอนอยู่อย่างมีความสุข ให้ตื่นจากภวังค์นั้น

     “อือ ๆ” นัยตอบรับ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ลืมตาแม้แต่นิดเดียว

     “ช้าไม่รอนะโว้ย ไปล่ะ”

     ต้าร์บอกพลางรีบหยิบขันน้ำกับผ้าเช็ดตัว วิ่งออกนอกห้อง เพื่อไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน

     พอทุกคนมาถึงที่ชมรม ปรากฏว่ามีการเปลี่ยนแผนกิจกรรมอย่างกะทันหัน พี่ ๆ ชมรมอนุรักษ์ฯ จึงได้ชวนน้อง ๆ ทั้งสมาชิกเก่าและใหม่ ไปเที่ยวสวนสัตว์โคราชกัน เพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคยให้กับสมาชิกใหม่ในชมรมฯ ขึ้น

     “อ้าวถึงแล้วหรือนี่ ออกมาจากประตู 2 แค่แป๊บเดียวเอง”

     ต้าร์พูดพลางไม่เชื่อสายตาตัวเอง เพราะว่ามีสวนสัตว์โคราชเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กับมหาลัยแค่เพียง 5 กิโลเมตรเอง

     สำหรับกิจกรรมในวันนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่มาเที่ยว แต่เป็นการสร้างจุดเริ่มต้นที่ดีของสมาชิกใหม่ในชมรมให้รู้จักและคุ้นเคยกันมากขึ้น ต้าร์เริ่มรู้สึกประทับใจกับความเป็นกันเองของพี่ ๆ ทำให้ต้าร์อดคิดไม่ได้ว่า

     ‘นี่แหล่ะ ชมรมที่จะทำให้เราได้ทำกิจกรรมระหว่างเรียนอยู่ที่นี่’

     “น้อง ๆ คะ ตอนเย็นวันพรุ่งนี้ ถ้าน้อง ๆ ว่างก็สามารถมาร่วมประชุมกับพี่ ๆ ได้นะคะ เพราะชมรมอนุรักษ์ฯ จะมีประชุมกันทุกเย็นวันอาทิตย์จ่ะ มาให้ได้นะ”

     ‘พี่ทิน’ สาวน้อยประจำชมรม อดีตนางนพมาศของมหาวิทยาลัย บอกกับน้อง ๆ ก่อนที่แยกกันกลับ

     ...วันนี้ต้าร์เริ่มเห็นแล้วว่า นักกิจกรรมสมัยมัธยม จะมาสานต่อนักกิจกรรมระดับมหาวิทยาลัยด้วยวิธีไหน ต้าร์คิดไปพลางยิ้มไป ใครเล่าจะรู้ว่า ชมรมอนุรักษ์ฯ นี่แหล่ะ ที่จะทำให้ต้าร์มีบันไดขั้นแรกของการทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัยแห่งนี้...