การเรียนในระดับอุดมศึกษาจะแตกต่างจากการเรียนสมัยมัธยม
เพราะไม่ได้เรียนเช้าเลิกเย็น แต่เป็นการเรียนตามตาราง มีเว้นวรรคทางการเรียนบ้างเป็นบางชั่วโมง
ในเทอมแรกทางมหาวิทยาลัยจะจัดตารางเรียนให้ แต่หลังจากนั้น ให้นักศึกษาเป็นผู้วางแผนการเรียนด้วยตัวเอง
โดยมีหลักสูตรแนะนำว่า แต่ละสาขาวิชา ในแต่ละเทอมจะต้องลงวิชาเรียนอะไรบ้าง
วิชาที่ต้าร์ชอบมากที่สุดก็เห็นจะเป็นวิชาภาษาอังกฤษ เพราะไม่ได้เรียนเหมือนกันทุกคน
ทางมหาวิทยาลัยมีการสอบวัดระดับของภาษาอังกฤษ แล้วให้เรียนเริ่มต้นในระดับที่ตนเองสอบได้
ซึ่งมี 5 ระดับ ต้าร์กับเอฟสอบได้ในระดับที่ 3 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับดี
สูงสุดถึงระดับ 4 ก็มีป้อมกับบี ที่สามารถสอบไปถึงระดับนี้ได้ ส่วนคนอื่น
ๆ ก็ได้ ระดับ 2 และระดับ 1 แล้วแต่ความสามารถของตนเอง
การเรียนในสัปดาห์แรกจะเน้นให้ทุกคนปรับตัวให้เข้ากับมหาวิทยาลัย
และหลักสูตรในระดับอุดมศึกษา และในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีการแข่งขันกีฬาน้องใหม่
ซึ่งมีรุ่นพี่จากกลุ่มสัมพันธ์มาช่วยเล่นให้ด้วย ต้าร์ได้เล่นกีฬาวอลเลย์บอล
เพราะเป็นกีฬาที่พอจะเล่นได้บ้าง ซึ่งก็สามารถเล่นได้อย่างประทับใจรุ่นพี่
และในทีมของต้าร์ มีนักกีฬาของมหาวิทยาลัยอยู่ด้วย ต้าร์จึงถูกจับตามองเป็นพิเศษ
เพราะในทีมต้องการหาตัวนักกีฬาอยู่พอดี หลังจากที่จบการแข่งขันปรากฏว่าทีมของต้าร์ไม่ผ่านเข้ารอบ
แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้าร์รู้สึกประทับใจ เพราะโค้ชของมหาวิทยาลัยเดินเข้ามาคุยด้วย
และสนใจที่จะให้ลองเข้ามาคัดเลือกเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลของมหาวิทยาลัย
หนุ่มน้อย
สนใจจะมาเป็นนักกีฬามหาลัย หรือเปล่า เห็นเราเล่นใช้ได้เลยนี่
ขอบคุณครับ
แต่ขอดูก่อนได้ไหมครับ กลัวว่าจะไม่มีเวลามาช่วยซ้อมน่ะครับ
ต้าร์ปฏิเสธแบบนิ่มนวลด้วยเหตุผลที่ว่า
ขอให้ปรับตัวกับการเรียนที่นี่ให้เป็นปกติก่อน ถ้าหากพร้อมยินดีที่มาซ้อมด้วย
ถึงแม้ว่าทีมของต้าร์จะผ่านเข้ารอบแค่
4 ทีมสุดท้าย ต้าร์ก็พอใจกับผลงานที่ออกมา เพราะนอกจากจะได้แข่งกับทีมแกร่ง
ๆ ของมหาวิทยาลัยแล้ว ยังได้รับการเชิญชวนให้มาร่วมทีมอีกด้วย
และแล้วก็ถึงวันที่น้องใหม่เฟรชชี่ต้องมารวมตัวกันอีกครั้ง
เพราะวันนี้กลุ่มสัมพันธ์ต่าง ๆ ต้องมาแสดงความสามารถของแต่ละกลุ่มให้กับเพื่อน
ๆ ได้ดู กลุ่มของต้าร์จับฉลากได้อันดับสุดท้าย จากทั้งหมด 11 กลุ่ม
จึงมีโอกาสได้ดูฝีมือการแสดงจากเพื่อน ๆ กลุ่มอื่นก่อน สำหรับการแสดงนั้น
แต่ละกลุ่มก็งัดทีเด็ดของตนเองมาแสดงกันแบบไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว
กลุ่มที่หนักใจสุด ๆ ตอนนี้เห็นจะเป็นกลุ่มของต้าร์ เพราะมุกที่เตรียมกันไว้ตอนนี้
ถูกเพื่อน ๆ กลุ่มอื่นหยิบออกมาใช้ซะเกือบหมด แม้กระทั่งเรื่องที่แสดง
ยังเป็นเรื่องเดียวกันอีกต่างหาก ดังนั้นจึงจำเป็นที่ต้องมีการเปลี่ยนการแสดงกะทันหัน
จากซินเดอเรล่า เป็นเรื่องอื่น
สุดท้ายภายในกลุ่มมีความเห็นว่า จะถ่ายทอดเรื่องราวของ
น้องตุ้ม นักมวยสาวประเภทสอง เพราะช่วงนี้ โฆษณา พ่อไม่เข้าใจตุ้มกำลังดังระเบิดระเบ้อ
ซึ่งงานนี้ทุกคนเลือก อาร์ต เพื่อนในกลุ่มของต้าร์ หนุ่มเหนือ ที่มองยังไงก็คัดค้านสายตาตัวเอง
มารับบทนี้
พอถึงวันที่ต้องแสดง ถึงแม้ว่าบางฉากจะเรียกเสียงฮาได้บ้าง แต่ก็เหมือนจะยังไม่เต็มที่
พี่อี๊ด
สาวเหนือรุ่นพี่ ที่ดูจะซี้กับต้าร์เป็นพิเศษ เพราะเป็นเด็กเหนือเหมือนกัน
ส่งต้าร์ไปสรุปเรื่อง แล้วปลุกระดมอารมณ์ให้เพื่อน ๆ ได้คึกคัก
ต้าร์.... พี่คิดว่าต้าร์เหมาะสมที่สุดสำหรับการกอบกู้เอกราชในครั้งนี้
... ไปโล้ด!!!
พี่อี๊ดบอกกับต้าร์พร้อมถีบต้าร์ออกมาด้วยคำพูดติดอีสาน
จ๊าก..ก...ก
ครับ...
หลังจากที่จบการแสดงไปแล้ว พวกเราคงเห็นว่า กะเทย ไม่ได้เป็นเพศที่น่ากลัวเลย
เพียงแต่เป็นเพศที่น่ากลัวมากต่างหาก โดยเฉพาะน้องตุ้ม มิน่าล่ะครับ
พ่อถึงไม่เข้าใจตุ้ม ใช่ไหมครับน้องตุ้ม
ต้าร์พูด
ย่ะ
อย่าพูดมาก เดี๋ยวเตะเลยนี่
อาร์ตตอบ ในขณะที่ยังไม่สลัดคราบน้องตุ้ม ทำเอาเพื่อน ๆ ส่งเสียงแซว
ฮิ้ว...ว........ว
เอาล่ะครับ...
ทีนี้เราลองมาเปลี่ยนบรรยากาศกันหน่อยดีกว่านะครับ หลังจากที่เมื่อยกันมานาน
เรามาพบกับความบันเทิงทิ้งท้ายจากกลุ่มของเรากันหน่อยนะครับ
ต้าร์เปลี่ยนอารมณ์เพื่อน
ๆ ด้วยเกมส์ทักษะสัมผัส นั่นคือเกมส์หัวเอวไหล่ ถึงแม้จะเป็นเกมส์ง่าย
ๆ แต่ก็ทำเอาหลายคน เผลอเอามือทิ่มหน้าทิ่มตากันเลยทีเดียว หลังจากที่ต้าร์สร้างบรรยากาศให้ดีขึ้นแล้ว
จึงได้กล่าวจบการแสดงของกลุ่ม
เอาล่ะครับ...หวังว่าวันนี้
เพื่อน ๆ คงได้สนุกสนานกันอย่างเต็มที่นะครับ ขอให้ทุกคนเก็บบรรยากาศดี
ๆ แบบนี้เอาไว้ให้นาน ๆ นะครับ ขอบคุณพี่ ๆ สตาร์ฟ และพี่ ๆ ทีมงานองค์การนักศึกษาทุกคนที่ได้จัดกิจกรรมนี้ให้กับพวกเรา
และหวังว่ากิจกรรมดี ๆ แบบนี้จะเกิดขึ้นอีก ให้กับรุ่นน้องของพวกเราครับ
ขอบคุณครับ
พอต้าร์พูดจบ
เสียงปรบมือของเพื่อนๆ และพี่ ๆ รอบสนาม ดังกึกก้อง ราวกับ เสียงปรบมือแสดงความยินดีที่มักจะได้ยินกับคนที่กำลังประสบความสำเร็จ
ทำเอาต้าร์ยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะมีเสียงปรบมือจากชาว
มทส ด้วยกันเองแล้ว ยังมีพี่ ๆ จาก มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ที่มาศึกษาดูงานกิจกรรมรับน้องปรบมือให้อีกด้วย
ใครล่ะจะอดใจไหว
ระหว่างทางเดินไปที่กลุ่ม
มีพี่คนหนึ่งเอ่ยปากทักต้าร์ขึ้นมา
น้องต้าร์ครับ
สนใจสมัครเป็นสมาชิกองค์การบริหารไหมครับ
แหะ
ๆ ขอดูก่อนนะครับ เพราะผมอาจจะยังไม่พร้อมที่จะทำงานนี้ครับ ขอบคุณนะครับที่ให้โอกาสนี้
ต้าร์ตอบเชิงปฏิเสธอย่างนุ่มนวล
ถ้าน้องพร้อม
ก็เข้ามาสมัครกับพี่ได้นะครับ เพราะพวกพี่ ๆ อยากได้น้องเข้ามาร่วมงานด้วยกัน
ทีมงานองค์การนักศึกษาตอบ
เหมือนยังมีความหวัง แต่ต้าร์ก็ได้แต่ยิ้มให้แล้วเดินเข้าไปในกลุ่มของตน
สุดยอดเลยเพื่อนเรา
เสียงเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มตะโกนออกมาพร้อมกับยกนิ้วให้กับความสำเร็จนี้
เพื่อกลุ่ม...เต็มที่อยู่แล้ว
ต้าร์บอกกับเพื่อน พร้อมใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
ค่ำคืนนี้คงทำให้เด็กหนุ่มคนนี้ฝันดีทั้งคืนอีกครั้ง
หลังจากที่เหมือนตัวเองจะประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตัวเองทำ เพียงแค่กิจกรรมรับน้อง
มันก็ทำให้เด็กหนุ่มคนนี้มีความสุขกับการเข้ามาอยู่ในรั้ว มทส แห่งนี้ซะแล้วสิ
รุ่งขึ้น
ต้าร์และเพื่อน ๆ ก็ตื่นไปเรียนตามปกติ แต่วันนี้อาจจะแปลก ๆ กว่าทุกวันหน่อย
เพราะมีมากมายสายตาที่มองมาหาต้าร์ อาจจะเป็นเพราะกิจกรรมเมื่อคืนนั่นเอง
วันนี้ป้อมมาพร้อมกับกระดาษสีขาวหลายแผ่น
ใบสมัครสมาชิกสมาชิกชมรมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมนั่นเอง ทีแรกเพื่อน ๆ
ในกลุ่มแปลกใจที่เห็นป้อมเอาใบสมัครมาให้ทุกคนเขียน ยิ่งกว่าเป็นตัวแทนขายประกัน
แต่ที่ไหนได้ พี่เมทของป้อม พี่หนอม เด็กหนุ่มชาวสุพรรณ เป็นประธานชมรมฯ
นั่นเอง ป้อมถึงอาสาหาสมาชิกใหม่ของชมรมให้ โดยให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มเข้าร่วมเป็นสมาชิกชมรม
ทุกคนยินดีที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิก
เพราะเห็นแก่ป้อม และอีกอย่าง สามารถเข้าได้หลายชมรมโดยไม่มีการบังคับ
นอกจากนี้ต้าร์ยังได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกชมรมดนตรีสากลอีกด้วย เพราะสมัยเรียนในระดับมัธยม
ต้าร์เคยเป็นนักดนตรีประจำโรงเรียนมาก่อน อีกทั้งยังเคยคว้ารางวัลระดับจังหวัดมาอีกด้วย
ต้าร์จึงสนใจที่จะสานต่องานทางด้านดนตรีของตนอีกครั้งหนึ่ง แต่สุดท้าย
ต้าร์ก็เลือกที่จะเข้าชมรมอนุรักษ์ฯ เพราะกลัวว่าจะไม่มีเวลาไปซ้อม
และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เพื่อน ๆ ภายในกลุ่มอยู่ชมรมอนุรักษ์ฯ กัน
และต้าร์บอกกับตัวเองไว้ว่าจะขอเริ่มต้นกับชีวิตของนักกิจกรรมด้วยชมรมนี้ก่อน
เฮ่..!
พวกเรา วันเสาร์นี้ พี่ ๆ ชมรมอนุรักษ์ฯ ชวนไปปลูกต้นไม้น่ะ ไปกันไหม
ป้อมบอกเพื่อน ๆ ในขณะที่เพื่อน ๆ กำลังสาละวนอยู่กับการกรอกใบสมัคร
เออ.!!
ดีเหมือนกันนะ จะได้ไปเปิดหูเปิดตากับพี่ ๆ บ้าง คงสนุกไปอีกแบบ
เอฟพูด
ดีเลย
งั้นวันเสาร์นี้ 09.00 น. เจอพวกพี่ ๆ ที่ห้องชมรมนะ เอาล่ะ ไปเรียนกันได้แล้ว
ป้อมนัดแนะกับเพื่อน
ๆ พร้อมไล่เพื่อน ๆ ให้ไปเรียน ก่อนที่จะสายมากเกินไป
เรียนเสร็จแล้ว
ตอนเย็นเจอกันที่รถนะ ตอนเย็นจะได้ไปหาอะไรกินกัน
เอฟบอกเพื่อน ก่อนจะแยกกัน
โอเค...
ได้เลยเพื่อน เพื่อนในกลุ่มตอบ
พอถึงเวลาเลิกเรียน
เสียงนักศึกษาทั้งรุ่นน้องและรุ่นพี่ดังเจี๊ยวจ๊าว ต่างก็ทยอยออกมาจากห้องเรียนกันเต็มไปหมด
ราวกับเพิ่งเลิกดูภาพยนตร์จากโรงหนังชื่อดังในห้างสรรพสินค้า ต้าร์กับหนึ่ง
เดินออกมาพร้อมกัน เจอกับเอฟที่หน้าห้องเรียนพอดี จึงได้ชวนกันเดินไปที่รถ
เพื่อรวมพล เมื่อไปถึงรถ ก็ได้เจอ บีกับพจน์ รออยู่ก่อนแล้ว ซักพักเพื่อน
ๆ แต่ละคนก็ทยอยกันมาจนครบองค์ประชุม
เย็นนี้ไปเที่ยวเซฟวันกันดีไหม
ป้อมเสนอความคิดเห็น เมื่อทุกคนอยู่พร้อมหน้ากัน
มันคืออีหยังล่ะบักป้วม..เซฟวันน่ะ
นะถามด้วยความฉงนในสิ่งที่ป้อมเอ่ยออกมาด้วยสำเนียงอีสาน
มันคือตลาดนัดมือสองน่ะ
ฮู้จักบ่อ บักนะเอ๊ย
ป้อมตอบแบบกวน
บักฮานิแมะ
นะค้อนพร้อมกับมองป้อมด้วยหางตา
เออ..ก็ดีเหมือนกันนะ
เราเคยไปเที่ยวแต่ที่เชียงใหม่ อยากรู้เหมือนกันว่าที่นี่เป็นยังไง
ต้าร์ออกความคิดเห็น
ในขณะที่เพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ก็เห็นด้วย จึงตกลงกันว่า เย็นนี้จะไปเที่ยวเซฟวันกัน
พอไปถึงตลาดนัดมือสองเซฟวัน
เหล่าบรรดานักล่าฝัน เอ๊ย ไม่ใช่สิ บรรดาเฟรชชี่น้องใหม่ไฟแรงกลุ่มนี้ก็รีบมุ่งหน้าไปยังจุดต่าง
ๆ ที่น่าสนใจ ต้าร์เลือกที่จะไปเดินจากที่ไกลสุดก่อน แล้วค่อย ๆ กลับมา
เพราะจะได้ดูแบบเต็มทีทุกซอกทุกซอย
เซฟวัน...เป็นตลาดนัดมือสองแห่งเดียวในบริเวณใกล้เคียงกับมหาวิทยาลัย
ใช้เวลาเพียงแค่ 10 นาที ในการเดินทางมาเที่ยว ก็จะได้สัมผัสบรรยากาศของตลาดขนาดใหญ่
ที่มีสินค้าทั้งใหม่และมือสอง มาจำหน่ายด้วยราคาที่ย่อมเยา คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายหลายพันชีวิต
และที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ นักศึกษาของ มทส เพราะเป็นแหล่งชอปปิ้งที่ใกล้ที่สุดก็ว่าได้
จึงทำให้หลาย ๆ คนชอบที่จะมาเลือกซื้อสินค้ากลับไป
ต้าร์และเพื่อน
ๆ เดินกันจนทั่ว บางคนแทบขาลาก เหตุเพราะมีอาณาบริเวณกว้างเหลือเกิน
ต้าร์และเพื่อนๆ ได้ของติดไม้ติดมือกลับมาคนละนิดคนละหน่อย พอถึงมหาวิทยาลัยต่างก็แยกย้ายกันกลับห้องของตนเอง
เช้าวันเสาร์
ช่างเป็นเช้าที่มีบรรยากาศดีซะนี่กระไร ต้าร์และเพื่อน ๆ ต่างตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงโทรศัพท์ในห้องที่ดังอย่างต่อเนื่อง
เพราะป้อมโทรจิกแต่ละคนให้รีบตื่น เพราะวันนี้นัดกันไปร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้กับพี่
ๆ ชมรมอนุรักษ์ฯ
นัย...ตื่นได้แล้ว
ไอ้ป้อมโทรมาเรียกแล้ว เดี๋ยวจะไปไม่ทันพี่เค้านะ
ต้าร์ปลุกนัย
เพื่อนเมทที่กำลังนอนอยู่อย่างมีความสุข ให้ตื่นจากภวังค์นั้น
อือ
ๆ นัยตอบรับ
ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ลืมตาแม้แต่นิดเดียว
ช้าไม่รอนะโว้ย
ไปล่ะ
ต้าร์บอกพลางรีบหยิบขันน้ำกับผ้าเช็ดตัว
วิ่งออกนอกห้อง เพื่อไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน
พอทุกคนมาถึงที่ชมรม
ปรากฏว่ามีการเปลี่ยนแผนกิจกรรมอย่างกะทันหัน พี่ ๆ ชมรมอนุรักษ์ฯ
จึงได้ชวนน้อง ๆ ทั้งสมาชิกเก่าและใหม่ ไปเที่ยวสวนสัตว์โคราชกัน เพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคยให้กับสมาชิกใหม่ในชมรมฯ
ขึ้น
อ้าวถึงแล้วหรือนี่
ออกมาจากประตู 2 แค่แป๊บเดียวเอง
ต้าร์พูดพลางไม่เชื่อสายตาตัวเอง
เพราะว่ามีสวนสัตว์โคราชเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กับมหาลัยแค่เพียง
5 กิโลเมตรเอง
สำหรับกิจกรรมในวันนี้
ไม่ใช่เป็นเพียงแค่มาเที่ยว แต่เป็นการสร้างจุดเริ่มต้นที่ดีของสมาชิกใหม่ในชมรมให้รู้จักและคุ้นเคยกันมากขึ้น
ต้าร์เริ่มรู้สึกประทับใจกับความเป็นกันเองของพี่ ๆ ทำให้ต้าร์อดคิดไม่ได้ว่า
นี่แหล่ะ
ชมรมที่จะทำให้เราได้ทำกิจกรรมระหว่างเรียนอยู่ที่นี่
น้อง
ๆ คะ ตอนเย็นวันพรุ่งนี้ ถ้าน้อง ๆ ว่างก็สามารถมาร่วมประชุมกับพี่
ๆ ได้นะคะ เพราะชมรมอนุรักษ์ฯ จะมีประชุมกันทุกเย็นวันอาทิตย์จ่ะ มาให้ได้นะ