หลังจาก
ที่การสอบผ่านพ้นไป คะแนนแต่ละวิชาก็เริ่มทยอยประกาศผลให้กับนักศึกษาได้รู้กันทั่วหน้า
ต้าร์พอใจกับคะแนนสอบกลางภาคของตนในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังอดห่วงวิชาแคลคูลัส
1 อยู่เหมือนกัน เพราะนอกจากจะสอบนอกรอบแบบอัตนัยแล้ว ก็ยังไม่มีการประกาศผลสอบให้รู้อีกด้วย
ต้องรอลุ้นกันตอนปลายภาค ว่าจะรอดหรือไม่รอด
ต้าร์ตั้งใจว่า เทอมนี้ต้องทำเกรดให้หลุดช่วงโปรให้ได้
เพราะใครที่ได้เกรดเฉลี่ยต่ำกว่า 2.00 ย่อมอยู่ที่นี่อย่างไม่เป็นสุข
ต้าร์จึงต้องขยันเป็นพิเศษ ทั้งแคลคูลัส 1 ฟิสิกส์ เคมี และภาษาอังกฤษ
ที่ต้าร์ไม่ค่อยถนัดมากนัก แต่ก็ต้องทำเกรดเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด
ถึงแม้ว่าต้าร์จะต้องขยันมากขึ้นเพียงใด แต่ต้าร์ก็ยังใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่ห้องชมรม
เพราะยังติดใจกับการออกค่ายครั้งแรก นอกจากจะได้ประสบการณ์ใหม่แล้ว
ต้าร์ก็ยังได้ทำใจสิ่งที่ตัวเองอยากทำ นั่นก็คือ การได้เป็นทีมงานสันทนาการนั่นเอง
และค่ายต่อไปของชมรมอนุรักษ์ฯ ก็คือ ค่ายอบรมพี่เลี้ยง ซึ่งทางชมรมก็ได้ประกาศรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการไปแล้ว
และต้าร์ก็คงจะไม่ยอมที่จะพลาดการเข้าค่ายในครั้งนี้แน่นอน เพราะนอกจากจะได้เป็นน้องค่ายแล้ว
ต้าร์ก็ยังมาช่วยพี่ ๆ เตรียมงานอีกหลาย ๆ อย่าง ที่พอจะทำได้ เช่น
ช่วยรับสมัคร ทำเอกสาร แต่ส่วนใหญ่พี่ ๆ ก็จะทำกันเองหมด เพราะเกรงว่าน้อง
ๆ จะรู้กำหนดการค่ายที่พี่ ๆ ได้เตรียมการไว้
บรรยากาศการเรียนและการทำกิจกรรมของต้าร์ กำลังดำเนินไปได้ด้วยดี
แต่บรรยากาศภายในแก๊งส์กลับไม่เป็นไปเหมือนที่อยากจะเป็น เพื่อน ๆ
ภายในกลุ่มเริ่มห่างกันไป เพราะไม่ค่อยมีเวลาว่างและเวลาเรียนไม่ค่อยตรงกัน
แต่ความสัมพันธ์ของเพื่อน ๆ ภายในกลุ่มก็ยังคงเดิม
หลังจากที่เอฟกลับมาจากบ้าน ทุกคนก็ได้มารวมตัวกันอีกครั้งในห้องของเอฟ
เอฟ... แม่นายกับอีฟเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นหรือยัง ต้าร์ถามเอฟด้วยความเป็นห่วง
ก็ดีขึ้นแล้วล่ะ
ไม่เป็นอะไรมากแล้ว ขอบใจนะที่เป็นห่วง เอฟเอ่ย
เห็นนายดูเครียด
ๆ นะ เป็นอะไรไปหรือเปล่า มีอะไรเล่าให้พวกเราฟังได้นะ ต้ารบอกเอฟ
อืม!!
พอดีว่าเรามาคิด ๆ ดูแล้ว เราอาจจะลาออก เราเรียนที่นี่คงไม่ไหว เกรดก็น้อย
คะแนนเทอมนี้เราก็ไม่ค่อยดีอีกด้วย จะรอดหรือเปล่าก็ไม่รู้
เอฟบอกความในใจ
อย่าคิดมากสิ
เราก็ได้เกรดพอ ๆ กับนาย เราต้องสู้สิเอฟ ต้าร์บอก
เราปรึกษาที่บ้านไว้แล้วล่ะ เค้าก็ไม่ว่าอะไร เราอาจจะไม่เหมาะกับวิศวะก็ได้นะ
เอฟพูดต่อ
คิดดูดี
ๆ แล้วกันนะ พวกเราคงไม่ห้าม อยากให้นายตัดสินใจดูเอาเองนะ ยังไงพวกเราก็เพื่อนกันอยู่แล้ว
ไม่ว่าพวกเราจะอยู่ที่ไหนกันก็ตามที ต้าร์บอกกับเอฟ
หลังจากที่เอฟได้บอกกับสิ่งที่ตนเองคิดมาหลายวัน
เอฟก็รู้สึกโล่งใจ ที่ได้บอกถึงความอึดอัดที่มี คืนนี้ต้าร์กับป้อมมานอนอยู่เป็นเพื่อนเอฟที่ห้องเหมือนเดิม
เพราะเอฟอยู่ห้องคนเดียว ส่วนพี่เมทได้ย้ายไปอยู่หอนอก ก็เลยมีเพื่อน
ๆ มาอยู่เป็นเพื่อนเพื่อคลายเหงาไปได้บ้าง
เอ้อ!
อาร์ต ชัช หนึ่ง วันพูกมีประชุมภาคเน่อ 1 ทุ่ม ตี้เอส 3 ต้าร์บอกเพื่อน
ๆ ชาวเหนือในกลุ่มเกี่ยวกับการประชุมภาคในวันรุ่งขึ้น
กูไม่เชื่อ
แชมป์ก็ทำลอยหน้าลอยตากวนเพื่อน ๆ ในกลุ่ม จนทำให้เพื่อน ๆ หันมามอง
อื้อ.. ถ้าจะไปก่อฮ้องกั๋นตวยเน่อ
อาร์ตบอกกับต้าร์
กูไม่เชื่อ
แชมป์ก็ทำลอยหน้าลอยตากวนเพื่อน ๆ อีกครั้ง
เรื่องของมึง
นี่แน่ะ เดี๋ยวกูจะทำให้เชื่อเอง ป้อมคว้าหมอนข้างของเอฟเขวี้ยงไปที่แชมป์
บรรยากาศในห้องนอนของเอฟคึกคักกว่าทุกวัน
เพราะนาน ๆ ทีจะได้มารวมตัวกัน อีกทั้งยังมีแชมป์ คอยมาป่วนเพื่อน
ๆ ด้วยคำว่า กูไม่เชื่อ แต่ก็โดนป้อมหาทางแก้เผ็ดร่วมกับเพื่อน
ๆ ได้ ด้วยคำว่า เรื่องของมึง ทำเอาแชมป์เงียบไปได้ทันที
ห้าว..ว...ว ~ ~ ง่วงนอนแล้วว่ะ ไปนอนก่อนนะ นุขอตัวไปนอนเป็นคนแรก
กูไม่เชื่อ
แชมป์พูดออกมาอีกครั้ง
เรื่องของมึง!!
ทุกคนหันทางทางแชมป์พร้อมกับตะโกนใส่แชมป์อย่างพร้อมเพรียงกัน เหมือนนัดกันไว้
ตามด้วยหมอนลอยมาอีก 2 3 ใบ ทำเอาบรรยากาศภายในห้องดูวุ่นวายเลยทีเดียว
กูว่าพวกเราแยกย้ายกันไปนอนเหอะ
เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่ตื่นไปเรียนกันพอดี ป้อมบอกเพื่อน ๆ
เออ
ดีเหมือนกัน เราก็ง่วงล่ะ ชัชสมทบ
บรรดาหนุ่ม ๆ ต่างก็แยกย้ายกันกลับห้องของตนเอง เหลือเพียงแต่
ป้อมกับต้าร์ ที่ยังอยู่ในห้องนี้ เพื่อนอนเป็นเพื่อนกับเอฟ
เย็นวันต่อมา หลังจากที่บรรดาหนุ่มชาวเหนือไประชุมกลับมาแล้ว ก็ได้ความว่า
ปีนี้ต้องทำโคมลอย เพื่อไปปล่อยในวันลอยกระทงของมหาวิทยาลัยถึง 13
ลูก ซึ่งก็ได้มีการนัดหมายกันเพื่อร่วมกันทำโคมลอยในวันเสาร์ที่จะถึงนี้
ต้าร์กับหนึ่งอาสารับหน้าที่ไปหาซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ
พอบ่ายวันเสาร์มาถึง
บรรดาหนุ่มสาวชาวเหนือ ต่างก็มารวมตัวกันทำโคมลอยที่ศูนย์บริการหอพักสุรนิเวศ
9 -10 บริเวณชั้น 2 เนื่องจากว่าเป็นห้องว่าง ๆ เหมาะสำหรับการนั่งทำงานกันอย่างเต็มที่
ช่างฝีมือ หรือ ที่ชาวเหนือเรียกว่า สล่า
ของแต่ละจังหวัดต่างก็ควักเอาวิชาความรู้ของตนออกมาช่วยกันทำ
ต้าร์รับทำตัวโคมลอยโดยมีสาว ๆ ชาวเหนือและหนุ่ม ๆ ที่ว่างจากการเตรียมไม้และเชื้อเพลิงแห้งมาช่วยกันทำ
เปรม.. สาวชาวเหนือฝีปากจัดจ้าน ได้พากุ้ง เน และยุรา เพื่อนสาวในหอพัก
มาช่วยกันทำโคมลอย และถือป็นการได้มารู้จักเพื่อนใหม่ไปในตัว บรรยากาศในการทำโคมลอย
นอกจากจะพูดกันแต่ภาษาเหนือแล้ว ยังได้เปิดเพลงของ จรัล มโนเพชร
ศิลปินเหนือชื่อดัง ให้กับทุก ๆ คนฟังอีกด้วย กุ้ง เน และ ยุรา ฟังไม่ค่อยออก
ต้าร์ก็เลยอาสาเป็นล่ามแปลเพลงเป็นภาษากลางให้สาว ๆ ฟังไปด้วย สร้างความคึกคักให้กับเพื่อน
ๆ ได้อย่างดีทีเดียว จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึง 4 ทุ่มกว่า ๆ โคมลอยอันแสนวิจิตตระการตาจากบรรดาช่างฝีมือสมัครเล่นก็ได้เสร็จสิ้นลง
เหลือเพียงแค่นำเชื้อเพลิงมาชุบน้ำมัน ก็สามารถนำไปใช้ได้เลย แต่ก็ต้องรอให้ถึงวันงาน
จึงจะเอาไปอวดโชว์ชาวบ้านเค้าได้ เมื่อทุกคนเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ เสร็จแล้ว
ก็พากันไปทานมื้อค่ำที่ร้านอาหารหน้ามอ และแยกย้ายกลับห้องพักของตนเอง
วันเพ็ญเดือนสิบสอง
น้ำก็นองเต็มตลิ่ง เราทั้งหลายชายหญิง สนุกกันจริงวันลอยกระทง
เสียงเพลงแห่งวันที่หลาย ๆ คนรอคอยก็มาถึง สาขาวิชาต่าง ๆ ก็คึกคักไปด้วยการเตรียมขบวนแห่เพื่อเข้าร่วมการประกวด
รวมถึงกระทงใหญ่ และนางนพมาศอีกด้วย ส่วนบรรดาชาวเหนือก็ขอมีส่วนร่วมในครั้งนี้ด้วย
นั่นก็คือ การร่วมปล่อยโคมลอย เพื่อเป็นการอนุรักษ์ประเพณีของชาวล้านนาเอาไว้
โดยมีพี่ปื๊ด หนุ่มหล่อรุ่นพี่ที่ดูภายนอกยังไงก็ไม่ใช่คนเหนือแน่
ๆ มาเป็นพี่เลี้ยงช่วยน้อง ๆ ปล่อยโคมลอยด้วย โดยวันนี้ต้าร์และเพื่อน
ๆ ชาวเหนือพากันใส่เสื้อยืดของภาค เพื่อแสดงออกถึงความเป็นหนึ่งเดียวมารวมกันอยู่ที่หน้าหอพักสุรนิเวศ
9 โดยช่วยกันเตรียมอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ใส่ไปในโคมลอย เพื่อให้โคมลอยที่ช่วยกันทำ
ลอยขึ้นไปด้วยแสงสีเสียงที่งดงามสมกับที่ตั้งใจเอาไว้
ป้าดโทะ!! อะหยังปะล้ำปะเหลือนี่ นักแต้นักว่า
เปรมถามต้าร์
ก่อมีบ่ะท้บ บอกไฟดอก บอกไฟผีเสื้อ ไฟเย็น
แล้วก่อหมู่นี้อ่ะก่ะ นักอยู่ ต้าร์บอก
ไปเซาะตางใดมานี่ ต๋ามหมู่นี้มีขายตวยก๊า
เปรมถามต่อ
มีก่ะ ปอดีว่าอ้ายปื๊ดเกยไปซื้อน่ะ ก่อเลยหื้ออ้ายปื๊ดปาไป
ต้าร์บอกรายละเอียด
จะอี้ก่อม่วนน่ะก่ะเนาะ เปรมบอก
นั่งแป๋งกั๋นมาหลายวัน
วันนี้ได้เล่นกั๋นละ อิอิ ต้าร์พูดด้วยความดีใจ
เมื่อได้เวลา ต้าร์กับเพื่อน ๆ ชาวเหนือไปรวมตัวกันที่อ่างสุระ
1 ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับสระสามแสน ซึ่งเป็นสระที่หลาย ๆ คนคุ้นหูกันดี
ทุกคนก็ต่างช่วยกันจุดไฟเชื้อเพลิงให้กับโคมลอยแต่ละลูกให้ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า
ด้วยความที่โคมลอยมีความสูงถึง 2 เมตร และ มีจำนวนถึง 13 ลูก จึงใช้เวลาร่วม
3 ชั่วโมงกว่าจะปล่อยขึ้นไปบนท้องฟ้าจนหมด เพราะแต่ละลูกที่ปล่อยนั้น
ต้องมั่นใจว่าลอยได้ โดยไม่ตกลงมาที่บ้านคนอื่น เมื่อโคมลอยอันสวยงามทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า
เสียงปรบมือปนเสียงเฮจากหนุ่มสาวชาวเหนือดังมาเป็นระยะ สร้างบรรยากาศครึกครื้นไม่น้อยเลยทีเดียว
โห
ผ่อแก่นนั้นลอ ขึ้นสูงขนาดเลย สล่าปูนนี่เหน็ดขนาดเลยน่อ
เสียงเพื่อน ๆ ชมปูน หนุ่มลำปางที่ บรรจงสร้างโคมลอยลายธงประเทศโครเอเชียลูกนี้ขึ้นมา
แก่นนั้นไผเป๋นสล่านิ
เสียงของชายหนุ่มในกลุ่มถามมาในความมืด
สงสัยสล่าอาร์ตแน่
ๆ เลย เน สาวน้อยเมืองพิษณุโลกร่วมแจมกับเพื่อน
ก่อว่าเต๊อะ
หลู้จะลงติ๊ก ๆ น่ะ ผ่อฮั่นลอ ปูนแซวอาร์ต
แป๋งหลายแก่น
มันก่อจะอี้น่ะก่ะ สงสัยมันจะหลู้กั๋นขึ้นน่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า อาร์ตตอบ
ทำเอาเพื่อน ๆ หัวเราะชอบใจด้วยความสนุกสนานกันเลยทีเดียว
หลังจากที่ต้าร์กับเพื่อน ๆ ชาวเหนือเสร็จภารกิจปล่อยโคมลอยแล้ว
จึงได้ชวนกันไปเดินเล่นภายในงาน ซึ่งอยู่บริเวณส่วนกิจการนักศึกษา
ต้าร์กับเพื่อน ๆ เพลินอยู่กับการปล่อยโคมลอยมากไปหน่อย จึงพลาดการแสดงจากขบวนแห่ของสาขาวิชาต่าง
ๆ แต่ก็ยังทันการประกวดนางนพมาศ และการออกร้านต่าง ๆ ในบริเวณงาน
พอทุกคนอิ่มท้องกันแล้ว ต่างก็แยกย้ายกันกลับหอพัก
เพราะวันรุ่นขึ้นทุกคนมีเรียนกันปรกติ จึงไม่อยากอยู่ภายในงานกันจนดึกมากนัก
เมื่อต้าร์กลับถึงหอพัก ก็ได้แวะเล่นที่ห้องของเอฟก่อน เจอเพื่อน ๆ
ในกลุ่มอยู่กันอย่างพร้อมหน้า ต้าร์จึงได้ชวนหนึ่ง ชัช และอาร์ต มาสมทบ
ก่อนจะกลับไปห้องของตน
ถึงแม้บรรยากาศอาจจะไม่คึกคักมากเหมือนในตัวเมือง
แต่งานลอยกระทงของที่นี่ก็ช่วยสร้างความบันเทิงให้กับนักศึกษาระบบไตรภาคได้ดีไม่น้อย
มันทำให้มีบรรยากาศของกิจกรรมที่นอกเหนือจากการเรียนเกิดขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มของชาวเหนือนั้น
กิจกรรมนี้ได้สร้างความสามัคคีกลมเกลียวให้กับพวกเขาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
นั่นแหละที่เค้าเรียกกันว่า มิตรภาพ...มักจะมาแบบไม่รู้ตัว |