ผ่านมาแล้วเกือบเดือน... กับการใช้ชีวิตในต่างถิ่น ของหนุ่มเหนือนามว่าต้าร์ แทบจะเรียกว่าไม่มีอุปสรรคใดเลยสำหรับต้าร์ เกี่ยวกับเรื่องการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ในรั้วของมหาวิทยาลัย เพราะต้าร์เป็นคนที่มีอัธยาศัยดี ทำให้เข้ากับทุกคนได้ง่าย โดยไม่ต้องกังวลเลยทีเดียว

     วันนี้ต้าร์กับเพื่อน ๆ ก็ยังคงดำเนินชีวิตประจำวันตามปกติของนักศึกษามหาวิทยาลัย

     “นี่พวกเรา พรุ่งนี้วันเกิดเรานะ ทำตัวให้ว่างล่ะ จะชวนไปหาอะไรกินกัน”

     ต้าร์รีบบอกวันสำคัญของตนเองให้กับเพื่อน ๆ ทราบ ว่าวันพรุ่งนี้ต้าร์จะมีอายุครบ 19 ปีบริบูรณ์แล้ว แต่วันเกิดทั้งทีขอมีปาร์ตี้เฉพาะกลุ่มกันซักหน่อยน่าจะดีเหมือนกัน

     “ดีเลย...งั้นวันพรุ่งนี้ไปเที่ยวลำตะคองกันดีไหม เพราะวันพฤหัสบดี มีเรียนกันแค่ครึ่งวันเอง”

     เอฟ เสนอความคิดเห็นให้กับเพื่อน ๆ ในกลุ่ม

     “ก็ดีนะ เรายังไม่เคยไปเห็นเลย เพื่อน ๆ ล่ะว่าไงบ้าง” ต้าร์หันไปถามเพื่อนคนอื่นๆ

     “เราก็เหมือนกัน ยังไม่เคยไป เคยแต่นั่งรถผ่านตอนมาจากกรุงเทพฯ” เป้เห็นด้วยกับต้าร์

     “งั้นตามนี้ละกันนะ เอารถเราไปนี่แหละ จะได้ไปกันทุกคน เอาล่ะ ตอนนี้พวกเราไปเข้าเรียนกันเถอะ จะบ่ายโมงแล้ว เดี๋ยวไปจองที่นั่งไม่ทัน”

     เอฟสรุปความคิดเห็นจากเพื่อน ๆ พร้อมกับชวนกันรีบไปจองที่นั่งสำหรับวิชาในภาคบ่าย…

     หลังจากเลิกเรียนแล้ว ต้าร์กับเพื่อน ๆ ออกไปเล่นกีฬาที่สนามกีฬากลางแจ้งตามปกติ บ้างก็เล่นบาสเกตบอล บ้างก็เล่นเทนนิส ส่วนต้าร์ลองไปซ้อมวอลเล่ย์บอลกับพี่ ๆ ทีมของมหาวิทยาลัย

     “อ้าว...หนุ่มน้อย มาแล้วเหรอ ลองมาซ้อมดูก่อนได้ ก่อนอื่นวิ่งเอาแรงซะหน่อยนะ แล้วค่อยมาวอร์ม”

     เสียงทักทายจากโค้ชดังมาแต่ไกล เมื่อเห็นต้าร์เดินมาที่สนามซ้อม

     “สวัสดีครับ ได้ครับ พี่ ๆ สวัสดีครับ” ต้าร์ยกมือไหว้ทักทายโค้ชกับพี่ ๆ ในทีม

     “เฮ่ย พวกเอ็งดูแลน้องใหม่ด้วยนะ” โค้ชตะโกนบอกลูกทีมให้ดูแลต้าร์ในระหว่างการซ้อมกับทีม

     “ได้ครับพี่” พี่ ๆ ในทีมตอบรับคำสั่งของโค้ช


     พอพระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลับขอบฟ้าไป ต้าร์กับเพื่อน ๆ ก็ชวนกันออกไปหาอะไรกินกันหน้ามอ ต้าร์สังเกตเห็นว่าป้อมดูเปลี่ยนไป ไม่ค่อยยิ้มเหมือนทุก ๆ วัน แต่ก็ไม่ได้ถามเพราะกลัวว่าจะถูกดุเอา เนื่องจากในกลุ่มจะรู้กิตติศัพท์ของป้อมกันดีว่า นอกจากจะเป็นคนที่ชอบเอะอะเสียงดังแล้ว ยังปากจัดยิ่งกว่าอะไรดี จึงไม่ค่อยมีใครกล้าไปสุงสิงเวลาที่ป้อมหน้าบูดเป็นตูดไก่แบบนี้

     หลังจากที่ต้าร์กับเพื่อนทานข้าวกันเสร็จแล้ว ต่างก็แยกย้ายกันกลับหอพักเพื่อพักผ่อน แต่สำหรับต้าร์แล้ว ยังรอคอยว่าใครจะส่งข้อความเข้ามาหาในเพจเจอร์ของต้าร์ตอนเที่ยงคืนบ้าง แต่แล้วก็เผลอหลับไปจนได้ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เช้าวันใหม่เสียแล้ว…

     เช้าวันนี้ต้าร์ รู้สึกอารมณ์ดีเป็นพิเศษ อาจจะเป็นเพราะหลังจากที่อ่านข้อความแล้ว ก็ยิ้มไม่หุบเลยทั้งเช้า แต่สิ่งที่ต้าร์ไม่เคยจะลืมเลยนั่นก็คือ โทรศัพท์กลับไปหาพ่อกับแม่ และพี่สาวที่น่ารักของต้าร์

     ‘ขอให้น้องรักมีความสุขมาก ๆ นะ ดูแลตัวเองด้วยล่ะ รักน้องชาย’

     ‘ขอให้ลูกมีความสุขมาก ๆ นะ อย่าดื้อล่ะ มีอะไรขาดเหลือก็โทรมาบอกพ่อกับแม่ได้นะ พ่อกับแม่อยู่ทางนี้สบายดี หวังว่าลูกก็คงสบายดีเช่นกันนะ ดูแลตัวเองให้ดีล่ะ รักลูก’

     นอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายข้อความดังเข้ามาในเพจเจอร์ตัวจิ๋ว อีกทั้งยังมีคำอวยพรจากเพื่อน ๆ ในกลุ่มมอบให้กับต้าร์อีก ทำให้วันที่ต้าร์มีอายุครบ 19 ปี ช่างดูจะมีความสุขมากกว่าทุกวันเลยทีเดียว

     วันนี้ต้าร์มีเรียนแค่วิชาเดียวตอน 10.00 น. แต่หลังจากเรียนได้เพียงชั่วโมงเดียว ต้าร์ก็สังเกตเห็นว่า ป้อมกับเอฟหายตัวไป แถมยังส่งข้อความมาหาว่า

     ‘เรากับป้อมกลับหอก่อนนะ ท้องเสีย เจอกันที่ห้อง’

     “มาเป็นอะไรตอนนี้เนี่ย แล้วตอนบ่ายที่นัดกันไปเที่ยว จะได้ไปไหมเนี่ย สงสัยจะแห้วแน่ ๆ ...เฮ่อ!!”

     ต้าร์พูดกับตัวเอง พลางถอนหายใจยาวออกมา แต่หารู้ไม่ว่านี่คืออุบายของเพื่อนๆ ในกลุ่ม ที่กำลังจะปฏิบัติภารกิจลับสุดยอดให้กับต้าร์ แต่ต้าร์เองก็ไม่ได้เอะใจแม้แต่น้อยเลย แถมยังนั่งเรียนและทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     หลังจากกลับหอแล้วต้าร์ก็ได้ไปแวะหาเอฟที่ห้อง แต่ไม่เจอ ไม่รู้ว่าหายไปไหนกัน ต้าร์ก็เลยไปนอนเล่นอยู่ที่ห้องของตัวเอง พอได้เวลา 13.00 น. เอฟก็โทรมาเรียกที่ห้อง ต้าร์ก็เลยถามเอฟว่า

     “ไหนว่าท้องเสียอ่ะ แล้วหายไปไหนกันมา”

     “ก็ท้องเสียน่ะแหล่ะ เราก็เลยชวนป้อมไปขอยาที่ห้องพยาบาลมา เอาเหอะตอนนี้ค่อยยังชั่วแล้ว มาเจอกันที่หน้าหอได้แล้ว เพื่อนๆ คนอื่นออกมากันแล้ว เดี๋ยวต้องไปรับบีกับพนจ์อีก”

     เอฟบอกต้าร์แบบปัด ๆ ไปเพราะเกรงว่าแผนการที่วางไว้จะพังทลายด้วยน้ำมือของตัวเอง

     “โอเค ๆ เดี๋ยวออกไป” ต้าร์ตอบแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ

     หลังจากที่รวมพลกันครบแล้ว เอฟก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังเขื่อนลำตะคอง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจากมหาวิทยาลัยไปทางอำเภอปากช่อง เอฟขับรถพาคณะมินิฉิ่งฉับทัวร์เข้าไปบริเวณสันเขื่อน เพราะเป็นบริเวณที่มีบรรยากาศยามบ่ายดีมาก ๆ ทุกคนลงจากรถแล้วเดินเล่นพร้อมกับถ่ายรูปกันอย่างเมามันส์ และที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือภาพหมู เอ๊ย ภาพหมู่

     หลังจากนั้นเอฟก็ได้ชวนเพื่อนๆ ไปหาอะไรกินเพื่อเป็นการฉลองวันครบรอบวันเกิดของต้าร์ ซึ่งแต่ละร้านที่อยู่ริมทางมีพริตตี้กับพริตเตอร์มาโบกธงเหย๋ง ๆ เชิญชวนให้เราแวะเข้าร้าน แต่ละคนก็ไม่รู้หรอกว่าร้านไหนอร่อยกว่ากัน เพราะเพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก เอฟเลือกจอดร้านที่คิดว่าบรรยากาศดีที่สุด ซึ่งก็โชคดีที่อากาศเป็นใจ ไม่ร้อนและไม่มีฝนตกเลย แถมนั่งชมวิวของแม่น้ำลำตะคองไปจนสุดลูกหูลูกตาอีกด้วย อะไรมันจะเพอร์เฟ็คเยี่ยงนี้ ต้าร์และเพื่อน ๆ รีบสั่งอาหารกันจ้าละหวั่น ทำเอาพนักงานเป็นอันงง จึงเริ่มสั่งกันใหม่ทีละคน ซึ่งเมนูแต่ละคนสั่งก็ไม่หนีกันไกลเลย ไม่ว่าจะเป็น ส้มตำ ไก่ย่าง ลาบ น้ำตก ไข่เจียว ไก่ทอด คอหมูย่าง ฯลฯ

     ต้าร์สังเกตเห็นว่าป้อมกับเอฟจะนั่งด้วยกัน และนั่งคนละฝั่งกับต้าร์ แต่ก็ยังไม่เอะใจ เพราะคนอื่น ๆ มีท่าทางปกติดี เหลือแต่ป้อมคนเดียวเท่านั้น ที่ยังมีท่าทางไม่เป็นปกติ

     หลังจากที่เหล่าบรรดาหนุ่ม ๆ สาว ๆ ฉลองกันเสร็จแล้ว ต้าร์กับเพื่อน ๆ ก็เดินทางไปเที่ยวกันต่อที่สวนท่านท้าวสุรนารี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว ที่ทำให้ต้าร์ได้สัมผัสบรรยากาศที่แสนสดชื่น เพราะที่นี่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าที่เขียวขจี แซมด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ ที่แข่งกันบานสะพรั่ง อีกทั้งยังมีการจัดสวนหินรูปร่างต่าง ๆ ละลานตาไปหมด สร้างความแปลกตาให้กับผู้ที่มาเยี่ยมชมยิ่งนัก แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สร้างความตะลึงให้กับต้าร์และเพื่อนไม่น้อยไปกว่ากันเลย นั่นก็ ‘พานบายศรียักษ์’ ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางสวน สูงราวตึก 3 ชั้นเห็นจะได้

     “ป๊าด..ด...ด..!!! อะไรกันนี่ อะไรกันนี่ ใครหนอช่างคิดช่างทำ อลังการสุด ๆ พวกเอ็งลองดูเด่ะ”

นุอุทานเสียงหลงออกมา เหมือนเจอสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เมื่อเดินมาใกล้ๆ พานบายศรียักษ์นั้น

     “เทวดามั้ง หรือไม่ก็คงมนุษย์ต่างดาวแหล่ะ” ชัชตอบนุแบบกวน ๆ

     “ไอ้บ้า...มีที่ไหนกัน เดี๋ยวโดนตื้บ” นุดุชัชเล่น ๆ

     “อะล้อเล่ง ล้อเล่ง” ชัชหยอกนุอีกครั้ง แล้วก็รีบวิ่งหนี ก่อนจะโดนฟรีคิกจากนุ

     “เออ...แล้วป้อมล่ะ ไปไหนแล้ว ไม่เห็นลงมาถ่ายรูปด้วยกันเลย” ต้าร์ถามเอฟด้วยความเป็นห่วง

     “ช่างมันเหอะ มันคงปวดท้องมั้ง” เอฟบอกกับต้าร์พร้อมกับหันไปมองนุกับชัชกำลังแกล้งกันอยู่อีกฟาก

      ระหว่างนั้น ต้าร์กำลังเพลินอยู่กับการถ่ายรูป นุกับชัช ที่กำลังเล่นเป็นฝาแฝดกัน เพื่อหันเหความสนใจจากต้าร์ ให้หันมามอง

     “พร้อมหรือยัง เอ้า...1....2.....3”

เอฟตะโกนบอก เหมือนส่งสัญญาณให้ต้าร์ถ่ายรูปนุกับชัชที่ แต่หาใช่ไม่ นั่นคือแผนการเด็ดปีกอินทรีย์ของเพื่อน ๆ และสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่ต้าร์กดชัตเตอร์ดัง ‘แช้บ!!’ นั่นก็คือ เสียงร้องเพลงพร้อมกับเสียงปรบมือของเพื่อน ๆ ที่ดังขึ้นมาพร้อมกัน...

     “Happy Birth Day to you.. Happy Birth Day to youHappy.. Birth Day Happy Birth Day.. Happy Birth Day to you”

     สิ่งที่ต้าร์เห็นระหว่างที่เพื่อนๆ กำลังร้องเพลงนั่นก็คือ ป้อมกำลังถือเค้กใบเตยสีเขียวพร้อมกับเทียนคละสีกว่า 20 เล่ม ปักลงบนเค้กถาดนั้น เดินมาทางด้านหลังของต้าร์ พร้อมกับรอยยิ้มของป้อมและเอฟ ที่บ่งบอกความมีเลศนัย หลังจากที่เป่าเทียนเสร็จ ทำเอาต้าร์ถึงกับน้ำตาซึมกับการเซอร์ไพรส์ของเพื่อน ๆ ที่พยายามปกปิดไว้ ตลอดการเดินทาง

     “ร้ายจริง ๆ นะพวกเราเนี่ย ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะจับผิดพวกนายไม่ได้ ว่าแล้วเชียว ต้องมีอะไรแน่ ๆ ใครกันเป็นเจ้าของความคิดนี้เนี่ย ร้ายจริงๆ”

      ต้าร์พูดไปพลางจ้องหาต้นตอเจ้าของไอเดียวนี้ สุดท้าย เอฟกับป้อมก็เลยต้องเฉลยแผนการทั้งหมดให้ต้าร์ฟัง

     “เรากับเอฟ อุตส่าห์ยอมโดดเรียน 1 ชั่วโมงเพื่อไปซื้อเค้กให้นายเลยนะเนี่ย พอเอามาไว้ในรถก็กลัวนายเห็นมาก เดี๋ยวความแตก ซ่อนไว้ซะอย่างดี”

     “แบบนี้นี่เอง เราสังหรณ์ใจมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร แหม.. พวกนายนี่สุดยอดจริง ๆ ยังไงก็ขอบใจเพื่อน ๆ ทุกคนนะ ที่ทำให้เรามีความรู้สึกประทับใจแบบนี้ ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีคนทำแบบนี้ให้กับเรา ขอบใจมากนะ”

      ต้าร์บอกความรู้สึกที่มีให้กับเพื่อน ๆ พลางตัดเค้กแบ่งกันกินกลางศาลาพักใจในสวนฯ พร้อมกับชวนกันไปถ่ายรูปเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกก่อนเดินทางกลับ…..พร้อมกับสถาปนาและตั้งชื่อประจำกลุ่มของพวกเขาว่า

     ‘แก๊งส์หัวล้าน’

      ชื่อนี้ไม่ได้มาจากใครเลย นอกจากเจ้านุคนเดียว เพราะเป็นคนที่มีผมบาง ต้องใส่ยาปลูกผมอยู่ทุกวัน และเป็นคนคิดท่าประจำกลุ่ม ระหว่างถ่ายรูปรวม จนทุกคนมีความเห็นว่า เอาชื่อนี้แหล่ะ เป็นชื่อประจำกลุ่มของตน...

      ต้าร์กลับมาถึงหอพักด้วยความอิ่มเอิบใจ เพราะเจอเซอร์ไพรส์เด็ดลูกใหญ่จากเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักกันยังไม่ถึงเดือนเลย ต้าร์โทรศัพท์ไปเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับทางบ้านฟัง ทำให้ครอบครัวของต้าร์พลอยมีความสุขไปด้วย และดีใจที่ต้าร์มีเพื่อน ๆ ที่ดีแบบนี้

      หลังจากที่ต้าร์อาบน้ำเสร็จ ต้าร์นั่งเล่นอยู่ที่เตียงนอนของตัวเองกับเพื่อนเมทที่เอามาเรียงต่อกัน ซึ่งต้าร์สนุกขึ้นมา อยากลองติดต่อหาบัดดี้ของตัวเองดู เพราะผ่านมาตั้งหลายวันแล้ว ยังไม่เคยติดต่อไปเลย ต้าร์จึงลองกดโทรศัพท์ห้องต่อไปยังหอพักหญิงหาบัดดี้ของตนเอง

     “สวัสดีค่ะ” เสียงรับโทรศัพท์จากอีกฟากหนึ่งของหอพักกล่าวทักทายต้าร์

     “สวัสดีครับ ขอสายตองครับ” ต้าร์พูดทักทายบ้าง

     “ตองพูดค่ะ นั่นใครคะ” บัดดี้ของต้าร์ถามด้วยความสงสัย

     “เราชื่อต้าร์นะ เป็นบัดเดอร์ของเธอ พอดีอยากรู้จักบัดดี้น่ะ ก็เลยลองโทรมาคุยด้วย” ต้าร์แนะนำตัวเอง

     “จริงเหรอ แล้วเธออยู่หอไหนล่ะเนี่ย” ตองถามต้าร์บ้าง

     “เราอยู่หอ 9 เออ...! วันนี้เป็นวันเกิดเรา อวยพรให้เราหน่อยสิ” ต้าร์บอกกันบัดดี้ของตน

     “อ้าวเหรอ! อืม..ก็ขอให้นายมีความสุขมาก ๆ ละกัน คิดสิ่งใดก็ขอให้สมปรารถนาละกันนะ ขอให้ร่ำรวย ร่ำรวย มีแฟนสวย ๆ ล่ะ”

     ตองอวยพรให้ต้าร์ด้วยคำอวยพรที่ฟังดู เหมือนตัวเองกำลังอยู่ในเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ หลังจากที่คุยกันสักพัก สัญญาณภายในก็ตัดไป

     “เฮ่อ... นอนดีกว่าเรา ง่วงแล้ว” ต้าร์บอกกับตัวเอง พร้อมกับล้มตัวนอนลงบนเตียงนุ่ม ๆ ของตัวเอง

     “สุขสันต์วันเกิดนะเพื่อน” เสียงอวยพรล่องลอยมาจากเตียงถัดไป ภายในห้องนอนของต้าร์

     “โห.... เพื่อนเมทสุดเลิฟ นึกว่าจะไม่ได้ยินคำอวยพรนี้จากนายซะแล้ว” ต้าร์ท้วง

     “ก็เห็นคนอวยพรให้เยอะนี่ ก็เลยบอกก่อนจะนอนนี่ล่ะ” นัยพูด

     “ยังไงก็ขอบใจละกันนะเพื่อน แต่เสียดาย ถ้านายไม่ติดธุระก็คงได้ไปเที่ยวด้วยกันเมื่อตอนบ่าย”

     ต้าร์พูดพลางดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเอง

     “ไม่เป็นหรอก เอาล่ะนอนเถอะ พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้า”

     “โอเช ๆ ฝันดีนะเพื่อน” ต้าร์กล่าวทิ้งท้ายก่อนจะปิดไฟนอน

     “อือ...เช่นกัน”

     ...คืนนี้คงทำให้ต้าร์นอนหลับฝันดีอีกซักคืน เพราะต้าร์ได้พบกับ..เซอร์ไพรส์.. คำที่ต้าร์เคยเพียงแค่ "ได้ยิน" แต่ไม่เคย "ได้สัมผัส" กับความรู้สึกนั้นมาก่อนเลย แต่ครั้งนี้มันได้มาเยือนความรู้สึกของต้าร์แล้ว เป็นใครก็คงอดที่จะประทับใจไม่ได้เช่นกันใช่ไหมล่ะ...